เมื่อวันที่ 29 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ศาลชิลีสั่งรัฐบาลจ่ายเงินชดเชยความเสียหายมูลค่า 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณราว 94.5 ล้านบาท ให้แก่ครอบครัวของเหยื่อ 20 รายที่เสียชีวิตในเหตุโศกนาฏกรรมคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มประเทศชิลีในปี 2010 โดยศาลวินิจฉัยเห็นว่าเป็นความผิดของรัฐบาลในเหตุการเสียชีวิตของผู้ประสบภัยทั้ง 20 รายดังกล่าว เนื่องจากรัฐบาลได้สั่งยกเลิกคำเตือนภัยสึนามิที่ประกาศเตือนในช่วงแรกหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ความรุนแรงถึง 8.8 แมกนิจูด สั่นสะเทือนพื้นที่ทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศชิลีเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ปี 2010 โดยศาลชี้ว่าสำนักงานภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยของชิลี ได้ยกเลิกคำเตือนภัยสึนามิดังกล่าว ทั้งๆที่กองทัพเรือชิลีได้ท้วงเตือนว่ายังคงมีคลื่นขนาดใหญ่รุนแรงที่ก่อตัวขึ้นและซัดกระหน่ำพื้นที่ชายฝั่งอยู่
“สำนักงานภาวะฉุกเฉินฯควรจะยกระดับเตือนภัยสีแดงเพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน แต่ไม่มีการดำเนินการเช่นนั้น ซึ่งถือเป็นการละเมิดการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรง” ศาลชิลีระบุ ทั้งยังวิพากษ์กองทัพเรือชิลีที่ไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบเพื่ออพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย
อย่างไรก็ดี รัฐบาลชิลียังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลที่ยังตัดสินให้ครอบครัวของเหยื่อผู้ประสบภัยสึนามิดังกล่าวอีก 74 รายได้รับเงินเยียวยาด้วยอีกรายละระหว่าง 11,200-45,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 392,000 บาท- 1.5 ล้านบาท)
ข่าวระบุว่า รัฐบาลชิลียังเผชิญคดีฟ้องร้องอีกหลายคดีจากครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิที่มีการยื่นฟ้องต่อศาลในหลายเมืองของชิลี ซึ่งคำวินิจฉัยตัดสินข้างต้นถือเป็นการตัดสินในคดีแรก ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตจากการถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัดกลืนหายไป 156 รายจากมากกว่า 500 รายที่เสียชีวิตหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในปีดังกล่าวด้วย