วอชิงตันโพสต์ ระบุ ประชาธิปไตยจอมปลอมของไทย ยังไม่ควรได้รับการช่วยเหลือจากสหรัฐ
บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา เรื่อง “ประชาธิปไตยจอมปลอมของไทย ยังไม่ควรได้รับการช่วยเหลือจากสหรัฐ” โดยมีเนื้อหาระบุไว้ว่า ไทยเป็นชาติพันธมิตรหลักนอกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ของสหรัฐ ตั้งแต่ปี 2556 และการวางแผนปฏิบัติการต่างๆ ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือเพนตากอน ในเอเชีย ก็จะขึ้นอยู่กับความร่วมมืออย่างมากของประเทศไทย แต่ในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา สหรัฐได้ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือแก่กองทัพของไทย เนื่องจากการรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำที่มาจากทหาร ตอนนี้ได้ทำให้ตัวเองกลายเป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง และรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ และเจ้าหน้าที่บางคนของเพนตากอน หวังว่าจะฟื้นฟูความสัมพันธ์เต็มรูปแบบ ซึ่งอาจจะไม่ได้เกิดขึ้น
วอชิงตันโพสต์ระบุว่า การตัดความช่วยเหลือเป็นผลมาจากกฎหมายว่าด้วยความช่วยเหลือต่างชาติ ที่ห้ามการร่วมมือทางทหารกับประเทศที่มีการรัฐประหารขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งคำสั่งห้ามดังกล่าวจะยกเลิกได้ก็ต่อเมื่อกระทรวงต่างประเทศรับรองว่ามีการฟื้นฟูประชาธิปไตยพลเรือนแล้ว แต่การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการลงมติให้เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ไม่ได้เป็นอะไรที่มากไปกว่าการเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม หลังการเลือกตั้งมาอย่างไม่ยุติธรรม ที่ฝ่ายตรงข้ามบางคนถูกห้ามไม่ให้ลงเลือกตั้งและคนอื่นๆ ถูกตั้งข้อหาคดีอาญา
โดยรัฐธรรมนูญใหม่ให้อำนาจอย่างล้นหลามแก่ทหาร ในการแต่งตั้งวุฒิสมาชิก 250 คน มีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีก 500 คน ซึ่งทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ไร้เสน่ห์และไม่ได้รับความนิยม สามารถเอาชนะมาได้ หลังจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม กลุ่มพันธมิตรฝ่ายค้าน ที่ดูเหมือนจะได้รับชัยชนะอย่างล้นหลามในสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่พรรคของทหารได้ไม่ถึง 126 ที่นั่ง ซึ่งเป็นจำนวนคะแนนเสียงที่ต้องได้ในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี
วอชิงตันโพสต์ระบุด้วยว่า สิ่งเหล่านี้ได้นำไปสู่การโยกย้ายเปลี่ยนแปลงเพื่อความได้เปรียบ อย่างแรกคือ คณะกรรมการการเลือกตั้งได้เปลี่ยนกฎในการจัดสรรจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำให้หลังการลงคะแนน ผลการเลือกตั้งทำให้ฝ่ายค้านไม่ได้รับคะแนนเสียงข้างมาก และอีก 11 พรรคเล็ก ได้รับที่นั่งในสภาไปพรรคละ 1 ที่นั่ง ซึ่งทั้งหมดให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนได้ตามความต้องการ ที่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้การสนับสนุนทางอื่น ด้วยการที่ศาลตัดสิทธิสมาชิกของฝ่ายตรงข้ามบางคน รวมทั้งผู้นำของฝ่ายตรงข้ามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีรายงานเสนอเงินสินบนหลายล้านดอลลาร์ให้แก่บรรดาสมาชิกพรรคตรงข้ามบางคนเพื่อให้เปลี่ยนขั้ว
ผลก็คือพันธมิตร 19 พรรคการเมืองที่มีความเปราะบาง หันมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จนได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเกินมา 5 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร ด้วยความอ่อนแออย่างมากของพรรคการเมืองจะทำให้กองทัพไทยมีอำนาจมากขึ้น
วอชิงตันโพสต์ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ลังเลที่จะให้ความร่วมมือด้านทหารกับผู้ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลอียิปต์ และซาอุดีอาระเบีย แต่การที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐให้การรับรองรัฐบาลไทยตอนนี้ว่าเป็นรัฐบาลพลเรือนและมีความเป็นประชาธิปไตยจะเหยียบย่ำกฎหมายของรัฐสภา ที่บัญญัติขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งที่กองทัพไทยได้ทำลงไป ถ้ารัฐบาลสหรัฐต้องการที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์บางส่วน ก็สามารถทำได้ภายใต้การยกเว้นตามที่กฎหมายอนุญาต แต่ควรจะทำทีละน้อยและเพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้มาซึ่งสิทธิมนุษยชน และควรจะตระหนักว่า ประเทศไทยยังไม่ได้บรรลุสู่การกลับคืนสู่ประชาธิปไตย
อ่านข่าว ‘ดอน’ เมิน ‘วอชิงตันโพสต์’ จัดหนักไทย ปชต.จอมปลอม โว ชาติอื่นๆแห่ยินดีไทย
