เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ภาพยนตร์เรื่อง “เดอะ เคฟ- นางนอน” ซึ่งเล่าเรื่องราวภารกิจการช่วยชีวิตทีม 13 หมูป่า ออกจากถ้าหลวงขุนน้ำนางนอน ที่จ.เชียงราย เมื่อกลางปี 2561 จากฝีมือการกำกับของ ทอม วอลเลอร์ ผู้กำกับลูกครึ่งไทย-ไอริช ออกฉายรอบปฐมทัศน์โลกที่งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ในวันเสาร์(5 ต.ค.)นี้ โดยวอลเลอร์ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีก่อนฉายรอบปฐมทัศน์ว่า “จะไม่มีใครสักคนพูดได้ว่ามันเหมือนกับการเซ็ตฉาก”
วอลเลอร์ยังกล่าวติดตลกต่อว่า “แต่สำหรับใครที่กลัวที่แคบ ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าคุณอาจรู้สึกกลัวหน่อยๆ” พร้อมกันนี้วอลเลอร์ได้เล่าถึงเบื้องหลังการถ่ายทำว่าทีมงานได้ตระเวนถ่ายทำตามถ้ำหลายแห่งในเมืองไทยที่มีลักษณะคล้ายๆกับถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน และได้จ้างนักประดา 4 คนในทีมกู้ภัยถ้ำหลวง มาแสดงเป็นตัวเองในเรื่อง ทั้งยังเล่าถึงอุปสรรคระหว่างถ่ายทำว่าต้องเจอกับสัตว์หลายชนิด เช่น งู และแมงมุมตัวใหญ่
ผู้กำกับลูกครึ่งไทย-ไอริชกล่าวว่าหลังจากฉายรอบปฐมทัศน์ที่ปูซาน ซึ่งเป็นเวทีภาพยนตร์ระดับโลกแล้ว ต่อไปจะนำ เดอะ เคฟ-นางนอน ฉายในประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนนี้
ด้านจิม วอร์นนี ชาวเบลเยียม หนึ่งในทีมนักประดาน้ำที่ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้และร่วมชมการฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์นี้ด้วยบอกกับเอเอฟพีถึงความรู้สึกที่ได้ชมภาพยนตร์ว่า “มันช่วยไม่ได้ที่เราจะกลับไปรู้สึกได้ถึงความตึงเครียด ความกลัวและตื่นเต้น แล้วก็รู้สึกโล่งอกเมื่อเหตุการณ์มันจบลง”
วอร์นนีกล่าวอีกว่าการได้แสดงภาพยนตร์ซึ่งเป็นผลงานเรื่องแรกในชีวิต มันเหมือนการได้เยียวยา
“สำหรับผมมันไม่ใช่เรื่องของเงิน แต่มันเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้เห็นถึงการทำสิ่งยิ่งใหญ่ที่เหลือเชื่อให้สำเร็จได้” วอร์นนีกล่าว
