สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) สร้างความตกตะลึงให้กับตลาดเมื่อวันที่ 29 มกราคม หลังจากที่ประกาศใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบติดลบเพื่อกระตุ้นการปล่อยกู้และผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อถึงระดับ 2 เปอร์เซ็นต์ตามเป้า ในช่วงเวลาที่รัฐบาลญี่ปุ่นประสบปัญหายากลำบากในการกระตุ้นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกแห่งนี้ โดยการออกอาวุธใหม่เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินฝืดของบีโอเจครั้งนี้ ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงและผลักให้ดัชนีนิกเคอิ 225 พุ่งขึ้นมากกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ จากการที่นักลงทุนยินดีกับการตัดสินใจครั้งนี้ของบีโอเจ
ทั้งนี้ การตัดสินใจที่จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับต่ำกว่า 0 เปอร์เซ็นต์ หมายความว่า แทนที่จะได้รับดอกเบี้ยจากการฝากเงิน แต่ธนาคารพาณิชย์ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับบีโอเจเป็นค่าฝากเงินแทน ผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ต้องปล่อยเงินกู้ เป็นการช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในอีกทางหนึ่ง ซึ่งนโยบายคล้ายๆ กันนี้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกโดยธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เมื่อปี 2557 และการตัดสินใจครั้งนี้ของบีโอเจถูกมองว่าเป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายของทางการญี่ปุ่น หลังจากที่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเงินก้อนใหญ่ และการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของนายก
รัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ที่เรียกกันว่า “อาเบะโนมิกส์” เริ่มสูญเสียแรงผลักดันในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นหลังจากช่วงเวลา 2 ปี
