เป็นอีกครั้งที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ออกมาสรรเสริญชื่นชม ซัดดัม ฮุสเซน อดีตประธานาธิบดีจอมเผด็จการของอิรัก โดยในระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงในเมืองราลี รัฐนอร์ธแคโรไลนา เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ทรัมป์กล่าวยอมรับกับกลุ่มผู้สนับสนุนว่า ซัดดัมเป็นคนชั่วร้าย แต่สิ่งหนึ่งที่ซัดดัมทำได้ดีคือการสังหารเหล่าผู้ก่อการร้าย และว่า วันนี้อิรักได้กลายเป็น “ฮาร์วาร์ด” สำหรับลัทธิก่อการร้าย ทรัมป์กล่าวเปรียบเปรยอิรักกับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ถือเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของสหรัฐอเมริกาและของโลกที่มีชื่อเสียง ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐไม่ควรทำลายเสถียรภาพของอิรักที่ขณะนี้กลายเป็นที่บ่มเพาะของกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) 13 ปีหลังจากกองทัพสหรัฐทำสงครามรุกรานอิรัก
หลังคำกล่าวเชิดชูซัดดัมของทรัมป์ถูกรายงานออกไป ทีมหาเสียงของฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตเพื่อลงสนามชิงชัยเก้าอี้ผู้นำสหรัฐ ที่ถือเป็นคู่แข่งของทรัมป์ ออกมาโจมตีทรัมป์ในทันที โดยนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายของฮิลลารี แถลงว่า เป็นอีกครั้งที่ทรัมป์ออกมายกย่องซัดดัมว่าเป็นมือสังหารผู้ก่อการร้ายที่ยิ่งใหญ่ ทั้งที่ในความเป็นจริงระบอบซัดดัมให้การสนับสนุนการก่อการร้าย คำชื่นชมซัดดัมของทรัมป์และบทเรียนบิดเบี้ยวที่ตัวเขาเองได้เรียนรู้ แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าอันตรายมีแค่ไหนหากทรัมป์ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดและความไม่คู่ควรของทรัมป์สำหรับตำแหน่งในทำเนียบขาวที่ทรัมป์กำลังแสวงหา
ก่อนหน้านี้ในปีที่แล้ว ทรัมป์เคยกล่าวว่าโลกจะดีกว่าที่เป็นอยู่นี้ 100 เปอร์เซ็นต์ หากซัดดัมและ พ.อ.โมอามาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำเผด็จการลิเบีย ยังคงอยู่ในอำนาจ แม้ทรัมป์จะกล่าวว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอิรักและลิเบียอยู่ในภาวะเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ตาม
ทั้งนี้ ซัดดัม อดีตผู้นำเผด็จการอิรักถูกกล่าวหาว่าปกครองประเทศอย่างทารุณเหี้ยมโหดและเข่นฆ่าประชาชนล้มตายไปหลายแสนคน รวมถึงการใช้แก๊สพิษสังหารชาวเคิร์ดด้วย ก่อนที่ซัดดัมจะถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอในปี 2549
