จีนยังตามล่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 “หมายเลข 0”

AP

“ผู้ป่วยหมายเลข 0” หรือ “ผู้ติดเชื้อหมายเลข 0” นั้นมาจากศัพท์วิชาการแพทย์คำว่า “patient zero” ซึ่งมีนัยจำเพาะที่สำคัญมากในทางระบาดวิทยา และไวรัสวิทยา ความหมายเฉพาะของคำนี้ในทางระบาดวิทยานั้นหมายถึง “ต้นทาง” แรกสุดของเส้นทางการแพร่ระบาด

คำอีกคำที่ใช้ในนัยเดียวกัน สลับแทนที่กันได้ ก็คือคำว่า “อินเด็กซ์ เคส” (index case) โดยมีความหมายในทำนองเดียวกัน คือเป็นผู้ติดเชื้อรายแรก

“ผู้ติดเชื้อหมายเลข 0” นั้นมีความสำคัญเนื่องจาก สามารถตอบคำถามสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการระบาดครั้งนั้นๆ ได้ ซึ่งไม่เพียงสร้างความเข้าใจในตัวไวรัสนั้นเพิ่มมากขึ้น ยังอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกัน ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในทำนองเดียวกันขึ้นได้อีกในอนาคต

ในกรณีของไวรัสซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการยาวเหยียดว่า ไวรัสโรคระบบทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลันสายพันธุ์โคโรนาตัวที่ 2 (severe acute respiratory syndrome coronavirus 2 หรือ SARS-CoV-2) ซึ่งเราคุ้นกันมากกว่าในชื่อเรียกของโรคที่ไวรัสตัวนี้ก่อให้เกิดขึ้น ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกบัญญัติไว้ว่า โรคโควิด-19 นั้น ผู้ติดเชื้อหมายเลข0 อาจมีได้หลายคน เพราะแพร่ออกไปหลายประเทศมาก

Advertisement

ผู้ติดเชื้อหมายเลข 0 นั้นไม่ใช่ผู้ติดเชื้อที่พบเป็นรายแรก ตัวอย่างเช่น ในกรณีของไทยซึ่งเป็นประเทศแรกในโลกที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอกประเทศจีนเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา นั่นไม่ใช่ผู้ติดเชื้อหมายเลข 0 ของไทยเพราะไม่ได้ก่อให้เกิดการติดต่อระหว่างคนกับคนภายในประเทศไทย เป็นเพียงนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแล้วพบว่ามีเชื้อโควิด-19 อยู่ในตัวเท่านั้น

ในกรณีของเกาหลีใต้ ผู้ที่เป็น “ผู้ติดเชื้อหมายเลข 0” ของประเทศเกาหลีใต้ คือ สตรีวัย 61 ปีชาวเมืองแทกู ที่เป็นตัวการให้เกิดการแพร่ระบาดในหมู่สาวก ศาสนาคริสต์นิกายชินจอนจิเป็นเรือนพันนั่นเอง

แต่สตรีสูงวัยชาวเมืองแทกูผู้นี้คือ ผู้ติดเชื้อที่พบเป็นลำดับที่ 31 ของประเทศเกาหลีใต้

ในบรรดา ผู้ติดเชื้อหมายเลข 0 ของโควิด-19 ทั้งหมดนั้น ผู้ที่มีความหมายสูงสุดในทางระบาดวิทยาคือ ผู้ติดเชื้อหมายเลข 0 ของจีน

เพราะบุคคลสำคัญนี้ สามารถบอกได้ว่า อะไรคือพาหะช่วงกลางที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนอู่ฟักตัวและกลายพันธุ์ของไวรัสซึ่งทำให้เดิมมีอยู่ในค้างคาว เพิ่มขีดความสามารถมากขึ้นจนติดต่อสู่คน และแพร่จากคนสู่คนได้

และบอกนักวิทยาศาสตร์ได้ว่า เส้นทางของไวรัสอันตรายนี้จริงๆ แล้วเริ่มต้นอย่างไร

ที่น่าสนใจก็คือ จนถึงขณะนี้ จีนยังคงหา “ผู้ติดเชื้อหมายเลข 0” ของตัวเองไม่เจอ

ไวรัสไม่ได้กำเนิดที่อู่ฮั่น?

การตามหาตัว “ผู้ติดเชื้อหมายเลข 0” ของจีน ทวีความสำคัญมากขึ้น เมื่อคณะนักวิทยาศาสตร์ของจีนคณะหนึ่ง ตรวจสอบเชิงพันธุวิศวกรรมแล้วเชื่อว่า ไวรัสก่อโรคโควิด-19 นี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่ ตลาดขายส่งสัตว์น้ำหัวหนัน ใจกลางนครอู่ฮั่น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแหล่งแพร่ระบาดโควิด-19 ออกไปทั่วเมืองและทั่วมณฑล ก่อนจะลามไปครอบคลุมซีกตะวันออกของจีนและอีก 50 ประเทศทั่วโลกในเวลาต่อมา

ทีมนักวิทยาศาสตร์ด้านพันธุกรรมซึ่งศึกษาเรื่องนี้ เป็นทีมประจำ สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนสิบสองปันนา ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดของ สภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน (ซีเอเอส) และสถาบันจีนเพื่อการวิจัยสมอง (ซีไอบีอาร์) หัวหน้าคณะที่ดำเนินการศึกษาวิจัยเพื่อตรวจสอบครั้งนี้คือ นายแพทย์ หยู เหวินปิน

วิธีการที่ใช้ตรวจสอบก็คือ จัดการจำแนกพันธุกรรมของตัวอย่างเชื้อ ซาร์ส-โคฟ-2 จำนวน 39 ตัวอย่าง จาก 12 ประเทศ เป้าหมายก็เพื่อสืบค้นไปถึงที่มาแรกสุดของเชื้อและหาทางทำความเข้าใจว่ามันแพร่ระบาดได้อย่างไร

การตรวจสอบทางพันธุกรรมดังกล่าว แสดงให้ทีมของนายแพทย์หยู รู้ว่า ไวรัสชนิดนี้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วภายใน ตลาดค้าส่งสัตว์น้ำในอู่ฮั่นจริง โดยมีการขยายตัวในจำนวนประชากรขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็นใน 2 ช่วงเวลา คือ วันที่ 8 เดือนธันวาคมปี 2019 ครั้งหนึ่ง และ ในช่วงวันที่ 6 มกราคม 2020 อีกครั้งหนึ่ง

ตามผลการศึกษาวิจัยซึ่งเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์ของ ซีไอบีอาร์ ระบุเอาไว้ว่า จากการวิเคราะห์ทางพันธุกรรม แสดงให้เห็นว่า โคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่นี้ “ถูกนำมาจากที่อื่น” และระบุเพิ่มเติมไว้ว่า

“ตลาด ซึ่งแออัดกลายเป็นแหล่งกระจายและหมุนเวียนไวรัสนี้ไปมา ก่อนที่จะกระจายออกไปทั่วทั้งเมืองในราวต้นเดือนธันวาคม 2019”

ข้อสังเกตสำคัญอีกประการที่ทีมวิจัยได้จากการศึกษาวิเคราะห์พันธุกรรมครั้งนี้ก็คือ

“ข้อมูลในจีโนม แสดงให้เห็นว่า เป็นไปได้ที่ไวรัสนี้เริ่มต้นระบาดจากคนสู่คนได้ตั้งแต่เมื่อต้นเดือนธันวาคม หรืออาจเป็นไปได้ว่าอาจจะก่อนหน้านั้นคือในราวปลายเดือนพฤศจิกายน” ปี 2019

ก่อนหน้านี้ ทางคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน และ องค์การอนามัยโลก ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า ผู้ติดเชื้อรายแรกเท่าที่รู้กันก็คือ ผู้ป่วยชายรายหนึ่งซึ่งเข้าพบแพทย์เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เพราะมีอาการไข้และไอผิดปกติ ชายผู้นี้ได้รับการรักษาตามอาการแล้วปล่อยตัวกลับบ้านไปในเวลาต่อมา

ประเด็นสำคัญที่พบในเวลาต่อมาก็คือ คนที่เดิมเข้าใจกันว่าเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกนี้ ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนไม่เคยไปตลาดค้าส่งสัตว์น้ำหัวหนันมาเลยในช่วงเวลานั้น

ซึ่งหมายความว่า เป็นไปไม่ได้ที่ชายผู้นี้จะเป็นตัวการทำให้เกิดการแพร่ระบาดที่ทั้งวนเวียนและกระจายตัวออกจากตลาดค้าส่งสัตว์น้ำของอู่ฮั่นนั่นเอง

ทำไมต้องหาตัวผู้ติดเชื้อหมายเลข 0

ซาราห์ บอร์วีน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของ สำนักปฏิบัติการด้านการแพทย์เพื่อสุขภาพของฮ่องกง บอกเอาไว้ว่า การที่เราไม่รู้ว่าในกรณีของจีน ผู้ติดเชื้อหมายเลข 0 ของอู่ฮั่นเป็นใคร ทำให้มีคำถามที่ไม่มีคำตอบอยู่มากมาย ตั้งแต่คำถามที่ว่า การแพร่ระบาดครั้งนี้เริ่มต้นได้อย่างไร และแพร่ไปแบบไหนอย่างไรในช่วงต้น

บอร์วีน ระบุว่า การพบตัวผู้ติดเชื้อรายแรกสุด มีความสำคัญสูงมากในการป้องกันการแพร่ระบาดในอนาคต และช่วยให้ได้ข้อมูลสำคัญที่ว่า ทำอย่างไรถึงจะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของมันได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานขนาดนี้ การบ่งชี้ผู้ติดเชื้อรายแรกในกรณีของจีนยิ่งยากเย็นมากขึ้น

“การหาตัวผู้ติดเชื้อรายแรก อาจไม่ให้คำตอบทุกอย่างกับเราได้ก็จริง แต่จะช่วยให้เราสามารถสร้างภาพเส้นทางของไวรัสโควิด-19 ได้และได้รับรู้ว่ามันเดินทางในแต่ละช่วงแต่ละตอนได้อย่างไร แต่ตราบใดที่เราไม่รู้จุดเริ่มต้นก็ยากที่จะได้ความรู้เกี่ยวกับเส้นทางนั้นว่ามันเริ่มตรงไหน อย่างไร”

จอห์น นิโคลส์ ศาสตราจารย์ด้านพยาธิวิทยา ยกตัวอย่างให้เห็นว่า การที่ฮ่องกงสามารถบ่งชี้ตัว “ผู้ติดเชื้อหมายเลข0” ที่เริ่มต้นการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส ได้ระหว่างปี 2002-2003 นั้นสำคัญอย่างยิ่งยวดในแง่ของการสอบสวนโรคทางระบาดวิทยา เพราะช่วยให้ได้รับรู้ว่า “โหมด” ของการระบาดของซาร์ส คืออย่างไ

ผู้ติดเชื้อหมายเลข 0 ของซาร์ส ในเวลานั้นคือ ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์วัย 64 ปีจากกวางโจว ซึ่งเข้าพักที่ โรงแรม เมโทรโพล ในฮ่องกงแล้วแพร่เชื้อให้กับนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 13 รายที่พักในที่เดียวกัน

ลงเอยทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อซาร์ส 8,000 คน เสียชีวิตมากถึง 813 คน

แต่ศาสตราจารย์นิโคลส์ ชี้ว่า เชื้อโควิด-19 ระบาดเร็วกว่าซาร์ส มาก และการที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมหาศาล ทำให้ยากอย่างยิ่งที่จะค้นหาจนพบ “ผู้ติดเชื้อหมายเลข0” ได้

นายแพทย์ หยู เหวินปินและคณะ ซึ่งลงทุนจำแนกพันธุกรรมตัวอย่างจำนวนมหาศาลเพื่อการนี้ สรุปเอาไว้ในรายงานว่า

“การศึกษาที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีที่ว่า ตลาดค้าส่งสัตว์น้ำหัวหนันนี้ เป็นแหล่งกำเนิดแหล่งเดียวของ โควิด-19 หรือไม่นั้น มีนัยสำคัญใหญ่หลวงต่อการค้นหาจนพบแหล่งที่มาของมันและ บ่งชี้พาหะที่เป็นตัวกลางก่อนการระบาดสู่มนุษย์

“ข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้ มีความหมายต่อการควบคุมการระบาดและป้องกันไม่ให้มันเกิดการระบาดขึ้นอีกครั้งในอนาคตสูงยิ่ง”

นั่นทำให้การตามล่าหาตัวผู้ติดเชื้อหมายเลข 0 ยังคงดำเนินต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image