ตลาดหุ้น-น้ำมันโลกดีดตัวขึ้น นักลงทุนเริ่มหวังวิกฤตโควิด-19เริ่มทรงตัว
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นในวันที่ 9 เมษายนนี้หลังจากนักลงทุนเริ่มมีความคาดหวังจากตัวเลขการติดเชื้อและการเสียชีวิตในหลายประเทศเริ่มทรงตัวอยู่ในระดับสูงว่า การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปน่าจะถึงจุดสูงสุดแล้ว
วอลสตรีทปิดตลาดในวันที่ 8 เมษายนสูงขึ้นอย่างมากจากความหวังดังกล่าวผสมกับการคาดหวังว่าคองเกรสจะสามารถตกลงกันได้ในการออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกเป็นมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่กำลังลำบากโดยเฉพาะ ทำให้ดาวโจนส์ ปรับขึ้นต่อเนื่องปิดตลาดสูงขึ้น 3.4 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลต่อตลาดในยุโรป ที่ดัชนีฟุตซี 100 ในลอนดอนปรับขึ้น 1.4 เปอร์เซ็นต์ ปารีสและแฟรงก์เฟิร์ตก็ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์เช่นเดียวกัน
แรงหนุนดังกล่าวทำให้ตลาดในเอเชียปรับตัวเป็นบวกกันถ้วนหน้า ตลาดฮ่องกง, สิงคโปร์, และโซล เกาหลีใต้ ปิดบวก 1 เปอร์เซ็นต์เศษกันทุกตลาด ตลาดหุ้นซิดนีย์ ที่ออสเตรเลียและ มุมไบ ที่อินเดียเพิ่มขึ้น กว่า 3 เปอร์เซ็นต์ ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ บวก 0.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนโตเกียว, ไทเป และ เวลลิงตัน ดัชนีแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เท่านั้น
ตลาดน้ำมันดิบโลกคาดหวังว่าการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก(โอเปก) กับประเทศคู่เจรจานอกกลุ่มอย่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกา อาจนำไปสู่การลดกำลังการผลิตลง แม้ว่านักวิเคราะห์จะเชื่อกันว่า ถึงแม้จะปรับลดกำลังการผลิตลง 10 ล้านบาร์เรลต่อวันก็ยังไม่สามารถดันราคาให้เป็นขาขึ้นได้ก็ตาม
ราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนท์ปรับขึ้นต่อเนื่องอีก 1.9 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 33.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนดับเบิลยูทีไอ เพิ่มขึ้น 4.2 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 26.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว
ทองคำขยับใกล้ 1,700 เข้าไปทุกที โดยบวกเพิ่มในวันที่ 0.86 เปอร์เซ็นต์หรือ 14.50 ดออลลาร์ เป็น 1,698.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 15.30 น.