เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า ตลาดซื้อขายน้ำมันและหุ้นในเอเชียได้รับแรงกดดันจากความกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ของโควิด-19 แต่ดัชนีส่วนใหญ่ ก็ยังยืนอยู่ในแดนบวกได้ แม้ว่า ตลาดสหรัฐอเมริกา ที่ผวาคำให้การของเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขระดับสูงเตือนว่าจะมีการเสียชีวิตและการติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่จำเป็นเพิ่มขึ้นเพราะการเร่งรีบเปิดให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเร็วเกินไปในสหรัฐอเมริกา
ดัชนีรวม เอ็มเอสซีไอ ทั่วเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น ลดลง 0.4 เปอร์เซ็นต์ก่อนที่จะรีบาวด์กลับเป็นบวก 0.3 เปอร์เซ็นต์ ในจีนลดลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาทำให้ปิดตลาดเป็นบวก 0.2 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงต่อเนื่องติดต่อกัน 3 ช่วงการซื้อขาย ก่อนปิดตลาดวันนี้ปรับขึ้นเป็นบวกได้ 0.7 เปอร์เซ็นต์ หลังมีรายงานข่าวการระบาดระลอกใหม่เมื่อมีการคลายล็อกดาวน์ ส่วนดัชนีนิกเกอิ 225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อปิดตลาด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแถลงผลประกอบการประจำปีที่ออกมาไม่ดีนัก ออสเตรเลีย ปรับขึ้น 0.4 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน
ราคาน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอของสหรัฐอเมริกากำหนดส่งมอบในเดือนมิถุนายน ลดลง 1.36 เปอร์เซ็นต์ ที่ 25.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในการซื้อขายช่วงเช้าในเอเชีย ก่อนกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในเวลาต่อมา ในขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ ซื้อขายกันต่ำลง 1.4 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 29.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้ว่าปริมาณน้ำมันดิบที่ล้นตลาดอยู่ลดลงแล้วก็ตาม หลังจากนายแพทย์ แอนโทนี ฟอซี ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดของสหรัฐอเมริกาเข้าให้ปากคำต่อวุฒิสภาสหรัฐ ระบุว่าการเปิดเมือง ปล่อยให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเร็วเกินไปอย่างที่เป็นอยู่จะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อและการเสียชีวิตที่ไม่จำเป็นต้องเกิดอีกมาก และก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดซึ่งควบคุมไม่ได้ตามมา
