สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0 – 0.25 เปอร์เซ็นต์ เหมือนเดิม เพื่อเป็นการส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
แถลงการณ์ของเอฟโอเอ็มซี ระบุว่า การระบาดของไวรัสโคโรนา ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อมนุษย์และเศรษฐกิจทั่วสหรัฐและทั่วโลก และวิกฤตด้านสาธารณสุขจะยังคงส่งผลอย่างหนักต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การว่างงาน และภาวะเงินเฟ้อในระยะเวลาอันใกล้ และยังอาจจะเสี่ยงต่อการคาดการณ์เศรษฐกิจในระยะกลาง ดังนั้น เอฟโอเอ็มซีจึงจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0 เปอร์เซ็นต์ จนกว่าจะมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ เฟดจะเดินหน้านโยบายซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ในอัตราเดือนละ 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับตั๋วเงินคลัง และ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับพันธบัตรองค์กรและหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวในการแถลงข่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณาเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และไม่แม้แต่จะคิดเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย สิ่งที่กำลังพิจารณาคือการให้การสนับสนุนเศรษฐกิจที่คิดว่าจะต้องใช้เวลาต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ เฟดคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีของสหรัฐ จะหดตัวลง 6.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2020 เนื่องจากการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่คาดว่าจะกลับมาขยายตัว 5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2021 และ 3.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2022
ขณะที่อัตราว่างงานของสหรัฐปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 9.3 เปอร์เซ็นต์ จากตอนนี้อยู่ที่ 13.3 เปอร์เซ็นต์ และจะลดลงไปอยู่ที่ 6.5 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2021 และ 5.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2022
