ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกยังคงแกว่งตัวเนื่องจากการมองโลกในแง่บวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ได้รับผลกระทบจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงปักกิ่งของจีน และการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อในสหรัฐ ขณะที่กำลังมีการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม จนทำให้หวั่นวิตกว่าอาจมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่
ตลาดหลักทรัพย์หลักในสหรัฐทั้งสามตลาดมีทั้งปิดลบและบวก โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ -0.65% ปิดที่ 26,119.67 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิด -0.36% ที่ 3,113.49 จุด และดัชนีแนสแด็คปิด +0.15% ที่ 9,910.53 จุด
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ในยุโรปปิดบวกทั้งหมด โดยดัชนี DAX ของเยอรมัน +0.54% ปิดที่ 12,382.14 ดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษ +1.7% ปิดที่ 6,253.25 ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส +0.88% ปิดที่ 4,995.97 จุด และดัชนี EURO STOXX 50 ของยุโรป +0.76% ปิดที่ 3,267.26 จุด
ด้านตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียยังคงผันผวน ดัชนี S&P/ASX app ของออสเตรเลีย ลดลงทันที่ที่เปิดตลาด -0.7% เช่นเดียวกับดัชนีนิเคอิของญี่ปุ่นที่ -0.5% แต่ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงบวก 0.56%
ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสลดลง 1.61% ปิดที่ 37.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือลดลง 1.18% ปิดที่ 40.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
