รอยเตอร์ระบุว่าตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันที่ 23 มิถุนายน หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐพากันปิดตัวในแนวบวก
อย่างไรก็ดีนักลงทุนยังคงหวั่นวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อในลาตินอเมริกา ขณะที่นครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในสหรัฐได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มแล้ว
ทันทีที่เปิดตลาดหุ้นในเอเชียต่างพากันปรับตัวเพิ่มขึ้นไปตามกัน โดยดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.58% ขณะที่ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.34% เช่นเดียวกับดัชนีฮั่งเสงของฮ่องกงที่เพิ่มขึ้น 0.80%
ตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐปิดตัวในแนวบวกทั้งสามตลาด โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.59% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 0.65% และดัชนีแนสแดกเพิ่มขึ้น 1.11% ซึ่งถือว่าเป็นการปิดตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุด
อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นหลักในยุโรปพากันปิดตัวลดลง โดยดัชนี DAX ของเยอรมนี -0.55% ดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษ -0.76% ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส -0.62% และดัชนี EURO STOXX 50 ของยุโรป -0.84%
ด้านราคาน้ำมันในตลาดโลกยังผันผวนเช่นกัน น้ำมันเวสต์เท็กซัสเพิ่มขึ้น 1.79% ปิดที่ 40.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือติดลบ 1.62% ปิดที่ 42.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล