สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานสภาวะซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียเมื่อ 26 มิถุนายนนี้ว่า ตลาดส่วนใหญ่พลิกกลับมาเป็นบวกอีกครั้งหลังร่วงลงในวันก่อนหน้านี้ จากอิทธิพลของตลาดวอลสตรีทที่ปรับตัวสูงขึ้นไม่สนใจสภาวะการแพร่ระบาดที่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งใน 29 รัฐของสหรัฐอเมริกา โดยเพิ่มสูงมากในเท็กซัส ฟลอริดา และ แคลิฟอร์เนีย และมีการระงับการคลายล็อกกันแล้วในหลายพื้นที่
ในขณะที่นายฮันส์ ครูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภาคพื้นยุโรป ออกมาเตือนว่า ใน 11 ประเทศในยุโรปมีการเพิ่มขึ้นของการระบาดอย่างมีนัยสำคัญ จนน่าวิตกว่าอาจเกิดการระบาดระลอก 2 ขึ้นซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้ระบบสาธารณสุขของประเทศเหล่านี้ตกอยู่ในภาวะเดือดร้อนหนักอีกครั้ง
ท่ามกลางสภาพดังกล่าว ตลาดหุ้นในเอเชียก็ยังปรับตัวสูงขึ้นแข็งแกร่ง โดยตลาดโตเกียว, ซิดนีย์, โซล, มะนิลา และตลาดหุ้นไทย ดัชนีปรับตัวสูงกว่า 1 เปอร์เซ็นต์กันถ้วนหน้า ในขณะที่สิงคโปร์เพิ่ม 0.9 เปอร์เซ็นต์, จาการ์ตาบวก 0.2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเวลลิงตันปิดบวกเพิ่มเล็กน้อยเช่นกัน
ที่สวนทางกับตลาดส่วนใหญ่คือ ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกง ที่ร่วงลง 0.9 เปอร์เซ็นต์หลังวุฒิสภาสหรัฐให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายเพื่อคว่ำบาตรฮ่องกง หลังทางการจีนเตรีนมผลักดันให้ใช้กฎหมายความมั่นคงใหม่ ส่วนตลาดเซี่ยงไฮ้ปิดทำการในวันนี้
ราคาน้ำมันดิบโลกยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยได้อานิสงส์จากข่าวการประกาศปรับลดการผลิตน้ำมันดิบของรัสเซีย ทำให้ราคาน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ บวกเพิ่มอีก 0.7 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 38.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.8 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 41.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
