องค์กรเฝ้าระวังเผยทั่วโลกกีดกันการค้าเพิ่มเพราะโควิด! ชี้ “เลือกตั้งสหรัฐ” หัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ

แฟ้มภาพรอยเตอร์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กลุ่ม “โกลบอล เทรด อเลิร์ท” ซึ่งเป็นองค์กรเฝ้าระวังด้านการค้าระหว่างประเทศในสวิตเซอร์แลนด์ เผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การกีดกันทางการค้าโลกเพิ่มสูงขึ้น ความไว้วางใจซึ่งกันและหดหายไป และระบุว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปลายปีนี้ จะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของการค้าโลกในอนาคต

รายงานดังกล่าวระบุว่า ในช่วงระหว่างการแพร่ระบาด ประเทศทั่วโลกประกาศใช้มาตรการจำกัดทางการค้ามากถึง 222 มาตรการ โดยส่วนใหญ่เป็นการจำกัดการส่งออก เวชภัณฑ์และยารักษาโรค รวมไปถึงอาหาร โดยชี้ให้เห็นว่ามาตรการกีดกันเวชภัณฑ์มีมากที่สุด เพิ่มขึ้นจากระดับเดิมกว่า 20 เท่าตัว

รายงานระบุว่า แม้ส่วนใหญ่ของมาตรการเหล่านั้นจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่การแพร่ระบาดก็ทำให้กระแสกีดกันทางการค้าแข็งแกร่งขึ้น ด้วยการทำให้ข้อโต้แย้งของลัทธิกีดกันทางการค้ามีเหตุผลเป็นรูปธรรมมากขึ้นจากภาวะขาดแคลนอาหารและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น รวมทั้งกลายเป็นการคุกคามต่อการจ้างงานในประเทศ

รายงานชิ้นนี้ยกตัวอย่างความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงของการแพร่ระบาด นอกจากนั้นยังมีความขัดแย้งเรื่องการเข้าถึงตลาดจีนระหว่างสหภาพยุโรป (อียู) กับจีนอีกด้วย แม้จะเน้นว่า วาทะกรรมทางการเมืองเกี่ยวกับเรื่องนี้อาจเกินเลยความจริงอยู่ไม่น้อย

Advertisement

รายงานระบุด้วยว่า หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายเดือนนี้จะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของการค้าโลก โดยหลายประเทศโดยเฉพาะจีนต้องการให้นายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งดังกล่าวและคาดหวังถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นตามมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image