สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายเจอโรม เพาเวลล์ ประธานกองทุนสำรองแห่งรัฐ (เฟด) หรือธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา แถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ยอมรับว่า การแพร่ระบาดระลอกใหม่ที่กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กำลังส่งผลถ่วงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า ข้อมูลที่ได้มากำลังชี้ให้เห็นว่า การฟื้นตัวจากวิกฤตโควิดถูกชะลอให้ช้าลง ผู้บริโภคเริ่มลดการใช้จ่ายลงอีกครั้ง และการกลับมาว่าจ้างแรงงานที่ถูกพักงานไปอีกครั้งก็ชะลอตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มกิจการขนาดเล็ก
ความเห็นของนายเพาเวลล์ ประกอบกับการตัดสินคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิม คือระหว่าง 0-0.25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งใช้มาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าความหวังที่เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะฟื้นตัวโดยเร็วเลือนลางลงไปทุกที
“เส้นทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการแพร่ระบาดอย่างมีนัยสำคัญ” คณะกรรมการกำกับนโยบายของเฟดระบุ
อย่างไรก็ตาม เฟด ยังคงรักษาแนวนโยบายเดิมเอาไว้เป็นส่วนใหญ่ และยังคงประกาศอย่างหนักแน่นว่าจะดำเนินมาตรการทุกอย่างเท่าที่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะกินเวลานานเพียงใด เพื่อจำกัดการสูญเสียให้น้อยที่สุด และขยายการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด แม้ทิศทางทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะยังไม่ชัดเจนในเวลานี้ แต่เชื่อว่า การตัดสินใจครั้งสำคัญของเฟดจะมีขึ้นในการประชุมครั้งต่อไป เมื่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาปรากฏชัดเจนแล้ว
