“เทเลนอร์” เผย เล็งควบรวมกิจการกับ “ทรู” หวังผงาดเป็นเบอร์ 1 ในไทย

REUTERS/Ints Kalnins/File Photo

“เทเลนอร์” เผย เล็งควบรวมกิจการกับ “ทรู” หวังผงาดเป็นเบอร์ 1 ในไทย

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ว่า กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพีกรุ๊ป) เพื่อควบรวมกิจการบริษัทลูกที่เป็นบริษัทให้บริการด้านโทรคมนาคมของตนคือบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เข้ากับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทรู ซึ่งจะส่งผลให้เกิดบริษัทใหม่ที่กลายเป็นผู้นำตลาดโทรคมนาคมในไทยมูลค่าราว 7,500 ล้านดอลลาร์ โดย Refinitiv Eikon data ประเมินว่า ดีแทค มีมูลค่าราว 3,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนทรู มีมูลค่าอยู่ที่ 4,500 ล้านดอลลาร์

รายงานข่าวระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้หากเกิดขึ้นจริงจะกลายเป็นการควบรวมกิจการกับบริษัทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ทำความตกลงควบรวมกิจการกับกลุ่มบริษัท เอเซียต้า เพื่อรวมปฏิบัติการเครือข่ายมือถือเข้าด้วยกันในประเทศมาเลเซียเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นดีลมูลค่า 15,000 ล้านบาทและผงาดขึ้นเป็นผู้นำตลาดในมาเลเซียไปทันที

“ยังมีหลายประเด็นที่คั่งค้างอยู่ และยังไม่มีความแน่นอนว่าการหารือนี้จะส่งผลให้เกิดความตกลงขึ้นได้ในที่สุด ทางเทเลนอร์ จะไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เพิ่มเติมระหว่างดำเนินกระบวนการนี้” ถ้อยแถลงของเทเลนอร์ระบุ

รอยเตอร์อ้างความเห็นของนาย แมดส์ โรเซนดาล นักวิเคราะห์ของดอยชต์แบงก์ ระบุว่า ความตกลงดังกล่าว หากได้รับความเห็นชอบ จะส่งผลให้เกิดบริษัทใหม่ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในไทยที่ 52 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าผู้นำตลาดในปัจจุบันคือ เอไอเอส ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 44 เปอร์เซ็นต์

Advertisement

โรเซนดาล ระบุว่า การควบรวมกิจการดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางยุทธศาสตร์ของเทเลนอร์ที่พยายามลดความเสี่ยงลงพร้อมๆ กับเพิ่้มมูลค่าให้กับหน่วยธุรกิจของตนในเอเชีย

โรเซนดาลเห็นว่าการรวมกิจการครั้งนี้เป็นผลดีต่อเทเลนอร์ เพราะเป็นไปได้ที่จะเพิ่มศักยภาพในการกำหนดราคาให้สูงขึ้น และลดต้นทุนจากการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ซึ่งถือว่าเป็นผลบวกจากดีลครั้งนี้ นอกจากนั้นดีลนี้ยังเกิดขึ้นในขณะที่ผลประกอบการของดีแทคอ่อนแอลงในระยะหลัง ยังไม่ฟื้นตัวสู่ระดับก่อนหน้าเกิดวิกฤตโควิดแต่อย่างใด

ทั้งนี้รอยเตอร์ระบุว่ากิจการของ เทเลนอร์ มีผู้ใช้บริการทั่วโลกอยู่ราว 172 ล้านคน โดยครึ่งหนึ่งของรายได้บริษัทมาจากธุรกิจในเอเชีย อีกครึ่งมาจากธุรกิจในภูมิภาคนอร์ดิค

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เทเลนอร์-ทรู’ ร่อนจดหมายชี้แจง กลต. หลังสะพัด ควบรวมกิจการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image