เรตติ้งออสการ์ พุ่งเกือบเท่าตัว จากเหตุการณ์ช็อกโลก วิล สมิธ ตบ คริส ร็อก

นาทีช็อกโลกที่ วิล สมิธ ตบหน้า คริส ร็อก รูปซ้าย วิล สมิธ กับ เจดา พินเก็ตต์ สมิธ ภรรยา (เอเอฟพี)

เรตติ้งออสการ์ พุ่งเกือบเท่าตัว จากเหตุการณ์ช็อกโลก วิล สมิธ ตบ คริส ร็อก

เอเอฟพี รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม สถานีโทรทัศน์เอบีซี เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นตัวเลขผู้ชมการถ่ายทอดสดงานประกาศรางวัลอคาเดมี อะวอร์ดส์ หรือ ‘ออสการ์’ ครั้งที่ 94 ที่เกิดเหตุการณ์ ‘ช็อก’ ผู้ชมทั่วโลก เมื่อ วิล สมิธ พระเอกฮอลลีวู้ดชื่อดังเดินขึ้นไปตบหน้า คริส ร็อก นักแสดงคอมเมดี้ดังกลางเวที หลังโกรธที่นักแสดงคอมเมดี้วัย 57 ปีพูดแซวทรงผมสกินเฮดของ เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ ภรรยาของ วิล ซึ่งป่วยเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม ว่าทำให้เรตติ้งผู้ชมออสการ์ในสหรัฐอเมริกาพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 9.85 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเรตติ้งต่ำสุดของออสการ์ พุ่งเป็น 15.36 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม เรตติ้งล่าสุดยังคงเป็นเรตติ้งผู้ชมที่ต่ำสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์การถ่ายทอดสดพิธีประกาศรางวัลออสการ์อยู่ดี

รายงานข่าวกล่าวว่า นาทีช็อกโลก ที่สมิธเดินขึ้นไปตบหน้าร็อก กลายเป็นคลิป ‘ไวรัล’ และถูกนำมาทำเป็น ‘มีม’ มุขขำขันที่ถูกแชร์นับไม่ถ้วน และมีทั้งความคิดเห็นที่ปกป้องและประณาม พระเอกเจ้าของรางวัลออสการ์นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมปีนี้จากเรื่องคิง ริชาร์ด

มาร์ก มัลคิน คอลัมนิสต์ของวาไรตี้ ให้ความเห็นกับเอเอฟพีว่า “ถ้าจะพูดว่าอคาเดมีต้องการประชาสัมพันธ์แบบนี้หรือไม่? ผมว่า ไม่นะ พวกเขาไม่ต้องการประชาสัมพันธ์ ตกเป็นข่าวที่มีการพูดกันว่าเกิดความรุนแรงขึ้นในงานออสการ์ แต่ถ้าจะพูดว่าอคาเดมีอยากให้ผู้คนพูดถึงออสการ์กันมากมั้ย มันใช่แน่นอน ผมแค่ไม่แน่ใจว่านี่คือวิธีที่พวกเขาต้องการให้พูดถึง”

Advertisement

อนึ่งที่ผ่านมา เรตติ้งผู้ชมงานประกาศรางวัลต่างๆ ได้ฟื้นตัวดีขึ้น รวมทั้งเรตติ้งคนดูงานประกาศรางวัลเอ็มมีเมื่อเดือนกันยายน และงานประกาศรางวัลแซก อะวอร์ดส์ ของสมาคมนักแสดงแห่งอเมริกา เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากก่อนหน้านี้ต้องจัดงานกันแบบเสมือนจริงเนื่องจากสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และส่งผลให้จำนวนคนดูลดลงตามมาเป็นธรรมดา

ทั้งนี้ เรตติ้งออสการ์เมื่อปี 2564 ตกลงจากเมื่อปี 2563 ที่มีเรตติ้งอยู่ที่ 23.6 ล้านคน ถึง 50 % และเป็นเรตติ้งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ขณะที่ปีนี้ สถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์พยายามปรับรูปแบบการถ่ายทอดสด อย่างเช่นให้มีการประกาศรางวัลด้านเทคนิค 8 รางวัลก่อนการถ่ายทอดสด หวังลดความน่าเบื่อ ฯลฯ ซึ่งมัลคินให้ความเห็นว่า ยังไม่ส่งผล เห็นความเปลี่ยนแปลงทันตา ทั้งยังพูดถึงเหตุการณ์ช็อกโลกบนเวทีออสการ์ที่เกิดขึ้นว่า “มันยังยากที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดขึ้นในตอนนี้”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image