เฟด ประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5% หวังแก้เงินเฟ้อ

เฟด ประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5% หวังแก้เงินเฟ้อ

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อที่รุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา และยังเป็นการส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากในระดับเดียวกันนี้ในอนาคตด้วย

การประกาศดังกล่าวส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นปรับตัวขึ้นไปอยู่ในระดับ 0.75-1 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อ 2 ปีก่อน

นอกจากนี้เฟดยังประกาศด้วยว่าจะปรับลดงบดุลมูลค่า 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ส่วนใหญ่มาจากพันธบัตร และหุ้นกู้ที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นประกัน (mortgage bond) โดยการลดงบดุลดังกล่าวลงจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐระบุว่า เฟดเข้าใจผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นกับชาวอเมริกัน แต่พาวเวลล์ก็ระบุด้วยว่า เฟดนั้นขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงก็เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ประคองเศรษฐกิจและลดความตึงเครียดที่ชาวอเมริกันหลายล้านครัวเรือนต้องเผชิญในเวลานี้

Advertisement

พาวเวลล์ระบุด้วยว่า ตนมองว่าเศรษฐกิจกำลังมีแน้วโน้มเป็นบวก ดังนั้นจึงยังมองว่าไม่มีสัญญาณที่เศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะชะงักงันอย่างที่นักเศรษฐศาสตร์กำลังกังวล นอกจากนี้ ยังระบุว่า เฟด ไม่ได้กำลังพิจารณาที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75 เปอร์เซ็นต์ อย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์

ความเห็นดังกล่าวของพาวเวลล์ ส่งผลให้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นทันที 930 จุด หรือราว 2.8 เปอร์เซ็นต์ นับเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบวันนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้นถึง 6.6 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นับเป็นการปรับตัวขึ้นสูงที่สุดในรอบ 40 ปี โดยอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์เป็นผลจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มสูง ปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทาน รวมไปถึงราคาน้ำมันและอาหารที่พุ่งขึ้นสูงในช่วงที่ผ่านมา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image