ตลาดหุ้นร่วงหวั่นเศรษฐกิจถดถอย น้ำมันผันผวน ทองพุ่ง
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมด เป็นผลจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบกับผลประกอบการของบริษัท ทำให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัว ท่ามกลางการดำเนินนโยบายเชิงรุกของรัฐบาลประเทศต่างๆ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ที่อาจทำให้เศรษฐกิจของมหาอำนาจอย่างสหรัฐและประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์หลักของสหรัฐ 2 ใน 3 ตลาดปิดลบ โดยมีเพียงดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เท่านั้นที่ปิดในแนวบวก แต่ก็เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% มาปิดที่ 31,928.62 จุด ด้านดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิด -0.8% ที่ 3,941.48 จุด และดัชนีแนสแด็ค ปิด -2.4% มาอยู่ที่ 11,264.45 จุด
ด้านดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษ -0.4% ปิดที่ 7,484.35 จุด ดัชนี DAX ของเยอรมนี -1.8% ปิดที่ 13,919.75 จุด ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส ปิด -1.7% มาอยู่ที่ 6,253.14 จุด และดัชนี EURO STOXX 50 ปิด -1.6% ที่ 3,647.56 จุด
ราคาน้ำมันก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานตึงตัว ซึ่งเกิดขึ้นจากความหวั่นวิตกว่าเศรษฐกิจอาจถดถอยร่วมกับการยังคงบังคับใช้มาตรการคุมโควิดอย่างเข้มงวดของจีน โดยราคาน้ำมันเบรนต์ทะเลเหนือปรับเพิ่ม 0.1% มาอยู่ที่ 113.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสปรับลด 0.5% ปิดที่ 109.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 1% แตะระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ โดยซื้อขายกันที่ 1,865.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่บิทคอยน์ก็ปรับเพิ่มขึ้น 0.99% มาอยู่ที่ 29,371.04 ดอลลาร์สหรัฐ
