หวั่นถดถอย! ศก.มะกันหดตัวติดกันไตรมาสที่ 2 ไบเดนปัดไม่แย่ ชี้ว่างงานต่ำ
เศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสที่ 2 ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมา หดตัวลง 0.9% ซึ่งถือเป็นการหดตัวต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 2 ซึ่งทำให้เกิดความหวั่นวิตกว่า เศรษฐกิจของสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจในวงกว้างที่สุดก็ลดลง 1.6% ต่อปีในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม การลดลงติดต่อกันรายไตรมาสของจีดีพีถือเป็นตัวบ่งชี้ภาวะถดถอยอย่างไม่เป็นทางการ แม้จะยังไม่อาจถือเป็นข้อสรุปสุดท้ายได้ก็ตามที
อย่างไรก็ดี จีดีพีของไตรมาสที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ การใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคชะลอตัวลงเนื่องจากคนอเมริกันจับจ่ายใช้สอยน้อยลงกว่าเดิม เช่นเดียวกับการลงทุนทางธุรกิจที่ลดลง เนื่องจากบริษัทห้างร้านต่างๆ ก็ลดการสั่งของเพื่อนำมาวางจำหน่าย ซึ่งทำให้จีดีพีร่วงลงไป 2%
ขณะที่อัตราการกู้ยืมที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) การก่อสร้างบ้านที่หดตัวลง 14% ต่อปี เช่นเดียวกับการใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลงด้วย
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณลบดังกล่าว มีขึ้นในห้วงเวลาที่ทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจต้องดิ้นรนเพื่อรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฟดเพิ่งประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% หนึ่งวันก่อนหน้านี้ โดยหวังว่จะสามารถหาทางลงจอดอย่างนุ่มนวลแม้จะยากลำบาก ซึ่งหมายถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายใต้การควบคุมราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นโดยไม่ทำเกิดภาวะถดถอยตามมา
ตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวกลายเป็นเป้าโจมตีทันที โดยพรรครีพับลิกันชี้ว่า รายงานที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ยังเป็นหลักฐานที่แสดงถึงภาวะถดถอยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ท่ามกลางปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ
ด้านประธานาธิบดีไบเดนอ้างถึงอัตราการว่างงานที่ต่ำเกือบเป็นประวัติการณ์ และสัญญาณการลงทุนในระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจ และนั่นไม่ได้ฟังเหมือนภาวะถดถอยสำหรับเขา
