เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% เตือนปรับเพิ่มต่อ แม้สัญญานเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลาย

REUTERS

เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% เตือนปรับเพิ่มต่อ แม้สัญญานเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลาย

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.5% เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น ถือเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 7 ของปีนี้ ทั้งยังส่งสัญญานว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอนาคต

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ชี้แจ้งว่า เฟดเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยสูงยังมีความจำเป็นต่อการควบคุมเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างเลวร้ายที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงดังกล่าวทำให้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอยู่ที่ระดับ 4.25% – 4.5% ซึ่งถือเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 15 ปี แม้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้จะต่ำกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจะอยู่ที่ 0.75% ก็ตาม

แม้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยล่าสุดของเฟดจะเพิ่มต้นทุนด้านสินเชื่อทั้งของประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจจำนวนมาก และทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่เฟดยังคาดการณ์ว่า จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้นไปถึง 5% – 5.25% ภายในสิ้นปี 2566

Advertisement

การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังมีขึ้น 1 วันหลังจากที่มีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลงในเดือนพฤศจิกายน มาอยู่ที่ 7.1% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในเดือนมิถุนายนที่ 9.1% อย่างมาก

พาวเวลล์กล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนแสดงให้เห็นถึงการลดลงที่น่ายินดี แต่จะต้องมีหลักฐานมากกว่านี้เพื่อให้มันใจว่า อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในเส้นทางขาลงอย่างต่อเนื่อง

เฟดยังคาดการณ์ด้วยว่า เศรษฐกิจจะเติบโตช้าลงและอัตราการว่างงานของสหรัฐจะเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า และในปี 2024 โดยคาดว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.6% ภายในสิ้นปี 2023 จาก 3.7% ในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากของการว่างงาน ที่โดยทั่วไปจะสะท้อนถึงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย

Advertisement

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจแทบจะไม่เติบโตในปีหน้า โดยจะขยายตัวเพียง 0.5% ซึ่งลดลงจากการคาดการณ์ในเดือนกันยายนถึงครึ่งหนึ่ง

พาวเวลล์เชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ แต่ก็รับว่า “ไม่มีใครจะรู้ว่าเรากำลังจะเดินไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ แต่ผมหวังว่ามันจะมีวิธีที่จะไม่เจ็บปวดอย่างสมบูรณ์ในการฟื้นฟูเสียรภาพด้านราคา แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่มี”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image