ผู้นำจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู ต่างแสดงความยินดีกับผลการเลือกตั้งทั่วไปของเนเธอร์แลนด์ที่พรรคซึ่งมีนโยบายต่อต้านผู้ลี้ภัยไม่ได้คว้าชัยชนะ โดยพรรคประชาชนเพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตยของนายกรัฐมนตรีมาร์ก รึตเตอ ยังคงเป็นพรรคที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
พรรคประชาชนเพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตยได้ไป 33 ที่นั่งจาก 150 เก้าอี้ น้อยกว่าเดิม 8 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเสรีภาพซึ่งประกาศว่าจะถอนตัวออกจากอียู ห้ามชาวมุสลิมเดินทางเข้ามาในประเทศ และแบนคัมภีร์อัลกุรอานได้ไป 20 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 พรรคประชาธิปไตยคริสเตียนและพรรคเสรีนิยมได้ไปพรรคละ 19 ที่นั่ง พรรคกรีนได้ 14 ที่นั่ง เพิ่มจากเดิม 10 พรรคแรงงานประสบความพ่ายแพ้อย่างหนักคือได้เพียง 9 ที่นั่งและเสียไปถึง 29 ที่นั่ง โดยมีผู้มาลงคะแนนถึง 80.2%
ทั้งนี้การเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากฝรั่งเศสและเยอรมนีที่กำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปเช่นกัน เนื่องจากจะบ่งชี้ถึงทิศทางของผลการเลือกตั้งครั้งนี้ของพรรคแนวประชานิยมทั้งหลาย
ผลการเลือกตั้งดังกล่าวยังทำให้ตลาดหุ้นทั่วยุโรป อาทิ ปารีส เยอรมนี และลอนดอน ปรับตัวสูงขึ้นไปตามกัน
นายฟรองซัวส์ โอลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่า ชัยชนะดังกล่าวเป็นชัยชนะเหนือพวกสุดโต่ง ขณะที่นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า รู้สึกยินดีกับผลการเลือกตั้งดังกล่าวเพราะผลการเลือกตั้งบ่งชี้ไปในทางที่ให้ความสำคัญกับอียู ซึ่งถือเป็นวันดีๆ สำหรับประชาธิปไตย ด้านนายฌอง คล็อด จังเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการอียู กล่าวว่า ประชาชนเนเธอร์แลนด์ลงมติเพื่อสังคมที่มีเสรีภาพและเปิดกว้างภายในยุโรปที่รุ่งเรือง
