จะเป็นอะไรกันนักหนาเชียว กับการนั่งยกขาขึ้นพาดบนแผงหน้าปัดรถยนต์ ก็มันสบายดีออก ยิ่งต้องนั่งรถเป็นระยะทางไกลๆด้วยแล้วล่ะก็ “ออดร้า เททัม” หญิงอเมริกันเล่าว่า เธอก็เคยคิดอย่างนั้นเช่นกัน จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะที่เธอนั่งอยู่บนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าคู่กับสามี แล้วยกขาทั้งสองข้างขึ้นพาดบนแผงหน้าปัดรถเหมือนที่เคยทำมาเป็นประจำ
“ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ฉันชอบนั่งยกขาขึ้นพาดบนแผงหน้าปัดรถ และสามีก็มักจะเตือนฉันเสมอว่า สักวันฉันจะต้องกระดูกหัก ขาหัก เพราะชอบนั่งแบบนี้แหละ ” เททัม ให้สัมภาษณ์ KTVQ ทีวีในเครือของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส เมื่อเร็วๆนี้
เททัม เล่าว่า ทุกครั้งที่สามีเตือน เธอก็จะโต้กลับไปทุกครั้งว่า เธอสามารถยกขาลงได้ทันเวลาแน่หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อปี 2558 ระหว่างเธอนั่งรถไปกับสามี เพื่อไปรับลูกๆที่บ้านแม่ของเธอ รถของเธอก็ชนประสานงากับรถคันหนึ่ง ส่งผลให้เธอกระดูกข้อเท้าหัก กระดูกโคนขาของเธอก็หัก มิหนำซ้ำ แรงกระแทกจากถุงลมนิรภัยยังทำให้ขาทั้งสองข้างของเธอ ซึ่งวางพาดอยู่บนแผงหน้าปัดรถ ยกขึ้นมากระแทกโดนใบหน้า ทำให้จมูกเธอหัก ไหล่ของเธอหักด้วย
เททัมเล่าว่า ถึงแม้อาการบาดเจ็บของเธอจะฟื้นตัว ดีขึ้น “แต่ทุกวันนี้ ฉันก็ไม่สามารถทำอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลฉุกเฉินได้เหมือนเดิม เพราะฉันไม่สามารถอุ้ม หรือ ยกตัวคนไข้ได้อีกแล้ว ฉันไม่สามารถยืนได้นานเกินกว่า 4 ชั่วโมง ทันทีที่ฉันยืนนานถึง 4 ชั่วโมงเมื่อไร ฉันจะเจ็บจนน้ำตาไหล ”
เททัมเล่าว่า หลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้น มันทำให้เธอเรียนรู้ว่า “ฉันไม่ใช่ซุปเปอร์แมน ฉันไม่สามารถยกเท้าลงได้ทันท่วงทีหรอก ”
ขณะที่แพทย์ยืนยันว่า ถ้าหากวันนั้น เธอไม่นั่งยกขาขึ้นแบบนั้น เธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากเลย
หลังจากเจอประสบการณ์จริงมากับตัว เททัมเล่าว่า “ทุกวันนี้ ฉันพยายามบอกใครต่อใครว่า คุณไม่อยากมีชีวิตแบบนี้หรอก คุณไม่อยากที่จะต้องมาทนเจ็บปวดอยู่ทุกวัน ถ้าหากฉันสามารถช่วยใครได้สักคน ให้ไม่ต้องเป็นเหมือนฉัน ฉันก็รู้สึกว่า มันช่างวิเศษแล้วล่ะ “