อย่าคิดว่ามีเพียงพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ประเมินว่ารัฐบาลหลังการ เลือกตั่งเดือนมีนาคมจะอยู่ได้ไม่นาน จึงได้เตือนให้สมาชิกพรรคลงพื้นที่ตระเตรียมรับการเลือกตั้งครั้งใหม่
ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย หรือแม้กระทั่ง พรรคอนาคตใหม่ล้วนแต่ประเมินเช่นนี้
ไม่เช่นนั้นคงไม่มีงาน Future is Now
ไม่เช่นนั้นพรรคประชาธิปัตย์คงไม่เดินหน้าเลือกหัวหน้าใหม่อย่างเข้มข้น และไปพิจารณาข้อเสนอว่าด้วย”รัฐบาลปรองดอง”ดูสิว่า น้ำเสียงเป็นอย่างไร
ยิ่งพรรคภูมิใจไทย ยิ่งมากด้วยความจัดเจนไม่ว่าจะมาจาก นายเนวิน ชิดชอบ ไม่ว่าจะมาจากนายสรอรรถ กลิ่นประทุม
ไม่น่าจะเกินเดือนกันยายน 2562 ด้วยซ้ำ
มีก็แต่พรรคพลังประชารัฐ มีก็แต่พรรครวมพลังประชาชาติไทย มีก็แต่บรรดาไอ้ห้อยไอ้โหนที่คอยเกาะแขน เกี่ยวขา กลุ่มอำนาจใน คสช.เท่านั้นที่มองไม่ออก
1 มองไม่ออกคะแนนเสียงที่ก้ำกึ่ง แตกต่างกันไม่มากนัก
แม้จะได้คะแนนจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย เข้าไปเสริม
แต่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ก็มองออก
1 มองออกว่าผลสะเทือนจากการต้องพึ่งพิงพรรคภูมิใจไทย พึ่งพิงพรรคประชาธิปัตย์ หรือแม้กระทั่งพรรคเล็กพรรคน้อยอื่นๆไม่ว่า พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา ผลจะตามมาอย่างไร
นั่นก็คือ รัฐบาลจะต้องดำรงอยู่ภายใต้ระบบโควต้า จากคะแนนของแต่ละพรรคการเมือง
นี่คือ ลักษณะของซักส้าว มะนาวโตงเตง
รัฐบาลผสมในแบบหลายพรรคการเมืองเช่นนี้ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะอยู่ได้ยาวนาน
แม้จะมีอำนาจจากปากกระบอกปืนค้ำยันอยู่ก็ตาม
ต้องยอมรับว่ามีหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่งซึ่งเป็นเป้าที่พรรคพลังประชารัฐจะดึงเข้ามาร่วมรัฐบาล ครั้งหนึ่งได้พบกับนักธุรกิจต่างชาติระดับเป้ง มีคำถามสุดท้ายว่ารัฐบาลจะอยู่ได้ยาวหรือไม่
หัวหน้าพรรคการเมืองคนนั้นยืนยันด้วยความเกรงใจอย่างยิ่ง ว่าไม่น่าจะเกินเดือนกันยายน 2562
เมื่อร่างพรบ.งบประมาณเข้าสภาก็ต้องล้มครืน