เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563 จากกรณีคนร้ายควงปืนยิงกระจกร้านทองย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนชิงทองคำรูปพรรณไป 1 ถาด ประมาณ 65 บาทหลบหนีไป ห้างทองเยาวราชเอ็มโกลด์ ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนขับรถยนต์เก๋งหลบหนีไป
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1923748
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และพ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้รับแจ้งเบาะแสว่าคนร้ายขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว จึงลงพื้นที่หาเบาะแสและสืบสวน กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ทะเบียน ฌก4393 กทม. จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสกัดจับ แต่คนร้ายไหวตัวทันและขับหลบหนี ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และรอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมกำลังจึงนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไล่ล่าติดตาม และสามารถจับกุมคนร้ายได้ที่ บริเวณกลางถนนกาญจนาภิเษก ใกล้ปากทางถนนเลียบคลองถนน ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายอภิเชษฐ์ กรพิทักษ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/224 หมู่บ้านพฤกษา45 ซอย 16 หมู่ 11 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาเดินทางมาที่บ้านพักเพื่อตรวจค้นหาของกลางสร้อยทองรูปพรรณเพิ่มเติม
ต่อมาเวลา 20.30น. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เดินทางเข้าร่วมเข้าตรวจค้นของกลางภายในบ้านพัก พบถุงทองรูปพรรณซุกซ่อนในถังชักโครก ปืนพกสั้นยี่ห้อกล็อก 26 พร้อมซองปืน เสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีฟ้า กางเกงยีนส์ขายาว ผ้าเปื้อนเลือดผู้ต้องหาหลังถูกกระจกร้านทองบาดมือ จากการตรวจสอบทองรูปพรรณเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไลข้อเท้า พระเลี่ยมทอง พบน้ำหนักรวม 34 บาท ยังมีส่วนที่หาไม่พบอีกจำนวนมากจากจำนวน ผู้ต้องหาชิงทองน้ำหนักทั้งหมด 55.3 บาท คิดเป็นมูลค่า 1,395,000 บาท
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายชิงทองคำรูปพรรณไปเก็บไว้ในบ้านย่านถนนกาญจนาฯ จากนั้นเปลี่ยนชุดและทะเบียนรถคันก่อเหตุ ก่อนขับรถออกจากบ้านมาวนเวียนในละแวกนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นรถท่าทางมีพิรุธ จึงขอตรวจค้นและล็อกตัวเข้าจับกุมเอาไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนนายอภิเชษฐ์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายที่บุกจี้ชิงทรัพย์ร้านทองจริงจึงควบคุมตัวมาสอบสวน เบื้องต้นนายอภิเชษฐ์ให้การว่าหลังก่อเหตุแล้วได้ขับรถกลับไปบ้านพักเลขที่ 41/224 หมู่บ้านพฤกษา 45 หมู่ที่ 11 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อนำทองที่ได้กับอาวุธปืนไปซ่อน ก่อนจะขับรถออกไปหาเพื่อนที่ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวเสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุเพราะต้องการนำเงินไปเคลียร์หนี้สินธุรกิจถมดินของตนเอง
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ามูลเหตุในการก่อเหตุ มาจากเรื่องหนี้สินเกี่ยวกับธุรกิจรถถมดิน จากการตรวจสอบประวัติของคนร้ายพบว่าเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ มาเเล้วเมื่อปี 2545 พื้นที่ สน.บางเสาธง ถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 4 ปี และกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย รวมถึงประชาชนที่เเจ้งข้อมูลเบาะแสของคนร้ายผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ชุดไล่ล่าตาสัปปะรด ตามโครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งพนักงานทางร้านที่มีสติจดจำใบหน้าและให้ข้อมูลรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้อย่างชัดเจน จนนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด ขอฝากไปถึงผู้ที่คิดจะก่อเหตุว่าอย่าทำเลย ทำอาชีพสุจริตดีกว่า อย่างเคสนี้ ตำรวจใช้เวลาไม่ถึง 4 ชั่วโมง ก็สามารถจับตัวคนร้ายได้เเล้ว
