09.00 INDEX “สภากลาโหม” ล็อกเป้า 19 กันยายน ชุมนุมใหญ่ ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ที่ประชุมสภากลาโหมอัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานร่วมกับปลัดกระทรวงกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพแสดงความสนใจ 2 เรื่องของการชุมนุม
1 ให้ความสนใจอย่างเป็นพิเศษไปยังการชุมนุมที่มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 19 กันยายน
1 ให้ความสนใจอย่างเป็นพิเศษไปยัง “ม็อบคอซอง”
นั่นเพราะว่า นับแต่วันที่ 17 สิงหาคมเป็นต้นมาได้เกิดปรากฏการณ์ที่เด็กนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ไม่ว่าใน กทม. ไม่ว่าในภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคอีสาน
ร่วมกันชู 3 นิ้วในระหว่างการเคารพธงชาติและเกิดกระแสติดโบขาวต้านเผด็จการอย่างคึกคัก
ที่สุดก็นำไปสู่การชุมนุมบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ
การปรากฏขึ้นของ “ม็อบคอซอง” สร้างความวิตกอยู่แล้ว การชุมนุมในวันที่ 19 กันยายน ยิ่งน่าวิตกมากกว่า
เพราะเป็นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ความเป็นจริงที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ วันที่ 19 กันยายน ตรงกับวันรัฐประหาร เมื่อปี 2549 เท่ากับเป็นการรำลึกถึงบาทก้าวแรกของรัฐประหารก่อนมาถึงรัฐประหารในปี 2557
รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 คือ มารดาแห่งรัฐประหาร เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
การชุมนุมโดยเน้นไปยังสถานการณ์เมื่อ 14 ปีก่อนย่อมสัมพันธ์ กับสถานการณ์รัฐประหารเมื่อ 6 ปีก่อน เพราะเป็นการรัฐประหารบนฐานคติที่ว่าไม่อยากให้ “เสียของ” เหมือนเมื่อปี 2549
ความละเอียดอ่อนอีกประการหนึ่งยังอยู่ที่เป็นการชุมนุมโดย “กลุ่มมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการชุมนุม” อันสร้างผลงานมาแล้วในการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม
ไม่เพียงแต่มีผู้เข้าร่วมที่ศูนย์รังสิตทะยานไปสู่ “หลักหมื่น” หากยังได้ประกาศข้อเสนอ 10 ข้ออันเป็นการทะลุเพดานทางการเมือง
การชุมนุมที่ท่าพระจันทร์วันที่ 19 กันยายน จึงระทึกใจ
ความระทึกใจอย่างสำคัญมาจากการเคลื่อนไหวของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ซึ่งตระเวณปราศรัยในเวทีใหญ่ๆ หลายเวทีด้วยประเด็นที่ต่อ เนื่องจากเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต
ไม่ว่าจะเป็นที่ขอนแก่น ไม่ว่าจะเป็นที่พระนครศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นที่อุบลราชธานี
โดยมีคำประกาศปิดท้ายการปราศรัยด้วยถ้อยคำเดียวกัน
นั่นก็คือ พบกันวันที่ 19 กันยายน ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
