‘ปิยบุตร’ ประกาศสู้ต่อ ไม่สน กกต.ลงดาบอาญา ชี้ภาพยนตร์ยุบพรรคจะไม่จบเหมือนเดิม

‘ปิยบุตร’ ประกาศสู้ต่อ ไม่สน กกต.ลงดาบคดีอาญา ชี้ภาพยนตร์ยุบพรรคจะไม่จบเหมือนเดิม 8 เดือน พิสูจน์แล้วว่าเป็นไฟลามทุ่ง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ตุลาคม ที่ชั้น 5 อาคารไทยซัมมิท คณะก้าวหน้าแถลงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้สำนักงาน กกต. แจ้งความดำเนินคดีอาญากับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 15 คน

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะอดีตเลขาธิการพรรค อนค. กล่าวว่า ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องคดีอาญา ก็ต้องย้อนกลับไปกรณีการยุบพรรคอนาคตใหม่เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค 10 ปี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา การยุบพรรคอนาคตใหม่ที่อาศัยเรื่องการกู้เงิน ความจริงก็มีปัญหาในทางกฎหมายและความชอบธรรมในหลายกรณี เป็นคดีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะมาก ทั้งในทางกฎหมาย การเงิน และการบัญชี ตนคิดว่าเรื่องนี้มีปัญหาตั้งแต่เรื่องของกระบวนการ เพราะกกต. ทำกรณีนี้อย่างเร่งรัด และเร่งรีบผิดปกติ ถ้าจำกันได้มีการเริ่มต้นว่า จะริเริ่มในฐานความผิดการรับเงินบริจาคเกิน 10 ล้านบาท โดยอาศัยฐานความผิดตามมาตรา 66 แต่ก็มาเพิ่มฐานความผิดตามมาตรา 72 ด้วย เรื่องการรับเงินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ จนนำมาซึ่งการยุบพรรคอนาคตใหม่ หลังจากนั้นเราได้รับเอกสารว่าในชั้นสืบสวนสวนสอบสวน มีการยกคำร้องในชั้นคณะอนุกรรมการกันถึง 3 ครั้ง แต่ กกต. ตั้งชุดใหญ่ก็ร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ปรากฏว่า คดีนี้ดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีการไต่สวนพยานบุคคล เป็นที่น่าสังเกตว่า ในขณะนั้นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหลายท่านหมดวาระ แต่หลังจากนั้นก็มีการสรรหาตุลาการชุดใหม่มาแทนที่หลังทำหน้าที่ตัดสินคดียุบพรรคอนาคตใหม่

นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พวกเราก็เดินหน้าในทางการเมืองและทางความคิดต่อ จึงก่อตั้งคณะก้าวหน้าขึ้นมา เมื่อเวลาผ่านไป 8 เดือนหลังพรรคถูกยุบ กกต. ได้มีมติดำเนินคดีอาญากับพวกเราต่อ แต่ตนมีข้อสังเกตว่าเมื่อวันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม มีนักร้องคนหนึ่งคือ นายสนธิญา สวัสดี ร้องไปที่ กกต. ว่าเมื่อไหร่จะดำเนินคดีอาญาพวกเราเสียที 7 วันถัด คือวันที่ 26 ตุลาคม กกต. ก็มีมติให้ดำเนินคดีอาญาต่อนายธนาธร ในฐานะที่เป็นผู้ให้กู้เงิน ตามมาตรา 66 ขณะเดียวกันก็ดำเนินคดีคณะกรรมการบริหาร อีก 15 คนที่เป็นผู้รับเงิน

นายปิยบุตรกล่าวว่า แม้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะมีผลผูกพันทุกองค์กร แต่ผูกพันเฉพาะในส่วนของผลคำวินิจฉัยเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องผูกพันศาลอื่นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีนี้เป็นการดำเนินคดีอาญา จึงไม่ผูกพันศาลอาญา เพราะหากตีความว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันศาลอาญา แบบนี้จะเกิดผลประหลาดทันที ศาลรัฐธรรมนูญจะกลายเป็นศาลอาญาโดยปริยาย เพียงแต่ไม่ได้พิพากษาจำคุก

Advertisement

“เราพร้อมสู้คดีอย่างเต็มที่และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ ผมเคยแถลงว่าภาพยนตร์ยุบพรรครอบนี้จะไม่จบแบบเดิม หากผู้กำกับภาพยนตร์ยุบพรรคอนาคตใหม่จะเป็นการตัดไฟแต่ต้นล้ม ถือว่าเป็นการคิดผิด เพราะจะเป็นไฟลามทุ่ง 8 เดือนที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าไฟลามทุ่งจริงๆ” นายปิยบุตรกล่าว

นายปิยบุตรกล่าวว่า ถ้าเราต้องการให้กระบวนการนิติสงครามหยุดสักที ก็ต้องสู้ ทั้งๆ ที่รู้กฎหมายไม่เป็นคุณแก่เรา หากไม่สู้กฎหมายก็จะบดขยี้กันต่อไป การสู้เท่านั้นถึงจะยุตินิติสงครามได้ หากผู้กำกับภาพยนตร์ยุบพรรคยังคิดเหมือนเดิมว่าทุกอย่างจะจบนั้น ท่านคิดผิดและไฟจะลามทุ่งกว่าเดิม

“คดีอาญาต้องใช้เวลาไม่สามารถรวบรัดตัดความได้ทันที กระบวนเริ่มต้นที่ตำรวจ อัยการ และไปศาลตามระบบปกติ ถ้าว่ากันตามข้อเท็จจริงไม่มีอะไรต้องกังวล แต่กังวลเรื่องกระบวนการนิติสงครามมากกว่า ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย สรุปว่ากระบวนการยุติธรรมถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความยุติธรรมแบบเสมอหน้าหรือเพื่อรับใช้บางคนเท่านั้น” นายปิยบุตรกล่าว

นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า กระบวนการทำงานของ กกต.มีความผิดปกติ ไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แม้ฝ่ายตนเองเป็นผู้ถูกดำเนินคดีก็ยังไม่ได้ทราบถึงการดำเนินการของ กกต.อย่างเป็นทางการ แต่กลับพบมติ กกต. จากข่าวที่ปรากฏตามสื่อมวลชน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image