09.00 INDEX ความเสื่อมโทรมทรุดลงภายใน กรณีเสกสกล กรณีประชาธิปัตย์
ไม่ว่ากรณี “คลิป 15 ล้าน” อันมาจาก นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ไม่ว่ากรณี “ล่วงละเมิดทางเพศ” อันส่งผลกระทบโดยตรงไปยัง นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ แห่งพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อเกิดปรากฏการณ์ขึ้นก็ได้รับการอธิบายว่าเป็นเรื่อง “ส่วนตัว” ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับพรรค
แต่เมื่อเกิดการวิพากษ์วิจารณ์โยงให้เห็นว่าพฤติการณ์ของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ มีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับตำแหน่ง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ในที่สุดก็นำไปสู่การยื่นใบลาออก
คำถามไม่ว่าต่อกรณีของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ต่อกรณีของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ เมื่อมีการยื่นใบลาออกแล้วความหมายก็เท่ากับว่ารัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง พรรคไม่เกี่ยวข้องกระนั้นหรือ
นี่ย่อมเป็นคำถามโดยตรงไม่เพียงแต่ต่อตัว นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ไม่เพียงแต่ต่อตัว นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ เท่านั้น หากแต่ในที่สุดแล้วก็ย่อมรวมศูนย์ไปยังรัฐบาล รวมศูนย์ไปยังพรรคการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อกรณีของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ กรณีของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ มิได้จบลงเพียงการลาออก
คำถามนั้นยังตรึงอยู่ที่คำอธิบายว่า ตำแหน่งแต่ละตำแหน่งของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ได้มาอย่างไร และมีเป้าประสงค์อะไรในทางการเมือง ไม่ว่ากรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ไม่ว่าในเรื่องสลากกินแบ่ง
คำถามเดียวกันนี้กล่าวสำหรับพรรคประชาธิปัตย์นับวันยิ่งจะกลายเป็นประเด็นอันแหลมคมไปยังกรรมการบริหารพรรค
เป็นคำถามไปยังสถานะแห่งความเป็น “สถาบัน” ในทางการเมืองว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยรับรู้ในประวัติความเป็นมาของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ เลยหรือ
ยิ่งเมื่อมีหลักฐานเด่นชัดจากอดีตนักเรียนอังกฤษอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายกรณ์ จาติกวณิช ยิ่งเพิ่มความแหลมคม เป็นความแหลมคมต่อ “วิจารณญาณ”ของพรรคประชาธิปัตย์
จากนี้ไม่ว่าความพยายามจะเปิดโปงความเน่าเสื่อม “ภายใน” พรรคประชาธิปัตย์จากการเปิดโปงกันเองของกรรมการบริหาร
ทั้งหมดล้วนดำเนินไปในลักษณะ “ขว้างงูไม่พ้นคอ” ไม่ว่ากรณี “เสกสกล” ไม่ว่ากรณี “ปริญญ์”
นี่คือความเสื่อมภายใน “ประชาธิปัตย์” ความเสื่อมของรัฐบาล