ราชทัณฑ์ เร่งตั้ง กก.สอบปมกลุ่มทะลุแก๊ซกินยาเกินขนาด เบื้องต้นเครียด-ภรรยากำลังตั้งครรภ์

ราชทัณฑ์ เร่งตั้ง กก.สอบปมกลุ่มทะลุแก๊ซกินยาเกินขนาด เบื้องต้นเครียด-ภรรยากำลังตั้งครรภ์

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ​นายอายุตม์ สินธพพันธ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีผู้ต้องขังกลุ่มทะลุแก๊ซรับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด รวมถึงการทำร้ายตัวเองด้วยของมีคม ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่ากรมราชทัณฑ์ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พบว่าผู้ต้องขัง จำนวน 3 ราย ได้แก่ ข.ช.ใบบุญ ไทยพาณิช และ ข.ช.พุฒิพงศ์ สมบุญ ได้ทำร้ายตัวเองด้วยการนำของมีคมกรีดข้อมือตนเอง พร้อมด้วย ข.ช.พลพล จิตรสุภาพ รับประทานยาพาราเซตามอล เกินขนาด เป็นเหตุต้องนำส่งไปรักษาตัวยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2565

โดยอาการเบื้องต้น ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2565 ข.ช.พลพล มีอาการดีขึ้น รู้สึกตัวได้ดี พูดคุยรู้เรื่องช่วยเหลือตัวเองได้ ยังรับประทานอาหารได้มากขึ้น ไม่มีอาการปวดท้อง แต่ยังมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเล็กน้อย นอนหลับได้ อาการเครียดดีขึ้นตามลำดับ อยู่ระหว่างการรักษาสังเกตอาการใกล้ชิด จากการสอบถามโดยนักจิตวิทยา ข.ช.พลพล แจ้งว่าสาเหตุของการกระทำดังกล่าวเกิดจากความเครียดในเรื่องส่วนตัว เนื่องจากเป็นห่วงภรรยาที่ตั้งครรภ์ และเรื่องคดีความของตน แต่ก็จะพยายามปรับตัว ไม่คิดมากให้เกิดความเครียดอีก

​​ในส่วนของ ข.ช.ใบบุญ และ ข.ช.พุฒิพงศ์ ที่ได้ทำร้ายตัวเองด้วยการนำของมีคมกรีดข้อมือตนเองนั้น พบว่ามีบาดแผล แต่ไม่รุนแรง พยาบาลประจำเรือนจำได้ทำการรักษาล้างแผลให้ทุกวัน โดยสาเหตุของการกระทำดังกล่าวแจ้งว่าเกิดจากความกังวลเรื่องทนายไม่มาติดต่อหรือพูดคุย แต่หลังจากได้เยี่ยมญาติและพบทนายแล้ว ทั้ง 2 รายก็เกิดความผ่อนคลายมากขึ้น

​​นายอายุตม์กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว กรมราชทัณฑ์มิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด และได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลักลอบนำยาพาราเซตามอลที่มีจำนวนมาก และการทำร้ายตัวเองด้วยของมีคมดังกล่าวแล้ว เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก ซึ่งกรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจิตของผู้ต้องขังทุกราย และมีความเป็นห่วงอย่างยิ่งเมื่อผู้ต้องขังเกิดความเครียดที่ต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ โดยกำชับให้ทุกเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่งมอบหมายนักจิตวิทยาเข้าดูแลพูดคุยกับผู้ต้องขังเพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และเท่าเทียมกัน เพื่อมิให้เกิดการทำร้ายตัวเองขึ้นอีก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image