3 ปี สภาล่มรัวๆ 19 ครั้ง เกมชิงไหวชิงพริบ แทคติคการเมือง

3 ปี สภาล่มรัวๆ 19ครั้ง เกมชิงไหวชิงพริบ แทคติคการเมือง

สภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 25 ที่มีวาระการทำหน้าที่ตั้งแต่ปี 2562-2566 โดยมีองค์ประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 500 คน ปัจจุบัน มี ส.ส.ทำหน้าที่ได้ 478 คน และสมาชิวุฒิสภา (ส.ว.) 249 คน รวมเป็นสมาชิกรัฐสภา 727 คน แต่สภาที่ถูกสังคมจับตามองเป็นพิเศษ คือ เหตุการณ์ที่ประชุมไม่ครบองค์ประชุม หรือสภาล่ม มักจะเกิดจากการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร และที่ประชุมรัฐสภา โดยสถิติสภาของสภาชุดที่ 25 นี้

นับว่าเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงเป็นสถิติของการประชุมสภา เพราะตั้งแต่เปิดประชุมสภา มาตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2562 มาจนถึงปัจจุบันข้อมูลล่าสุด คือ วันที่ 15 สิงหาคม 2565 มีเหตุการณ์ที่ประชุมสภา และประชุมรัฐสภา ล่มไปแล้วรวมถึง 19 ครั้ง แบ่งเป็น ในปี 2562 ที่ประชุมสภาล่มไป 3 ครั้ง ด้วยเหตุและปัจจัยที่มาจากการเล่นแง่ ชิงไหวชิงพริบกันในทางการเมือง ผ่านกลเกมของฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ขณะที่ปี 2563 มีเหตุการณ์สภาล่มเพียงแค่หนึ่งครั้ง คือ การประชุมสภาวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ระหว่างการพิจารณารายงานความคืบหน้าแผนปฏิรูปประเทศ (ฝ่ายค้านวอล์กเอาต์) ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายตั้งข้อสังเกตว่ารัฐธรรมนูญกำหนดให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รายงานสภาทุก 3 เดือน แต่กลับไม่มีการดำเนินการ อีกทั้งยังไม่มีผลงานที่เป็นรูปธรรมตามตัวชี้วัด ตามกฎหมาย หรือเป้าหมายที่กำหนดไว้

ข้ามมาที่ปี 2564 มีเหตุการณ์สภาล่มบ่อยมากขึ้น จนได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า สภาอับปาง มีมากถึง 8 ครั้งที่สภาไม่สามารถทำงานจนจบการประชุมได้ ในจำนวนนี้มีการล่ม 2 ครั้งที่เกิดขึ้นในการประชุมร่วมของรัฐสภาระหว่าง ส.ส.และ ส.ว. พร้อมกันในช่วงเดือนกันยายน ในระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้งานวิจัยและนวัตกรรม และร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ หากจะโฟกัสในการประชุมสภา สมัยสามัญครั้งที่ 1 ประจำปี 2565 ตั้งแต่เปิดประชุมมาจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม มีเหตุการณ์ประชุมสภา และประชุมรัฐสภาล่มไปแล้วถึง 7 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ครั้งที่ 13 วันที่ 19 มกราคม 2565 ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษารวม 5 ฉบับ (องค์ประชุมไม่ครบ) ครั้งที่ 14 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ระหว่างการพิจารณาอนุมัติให้คณะรัฐมนตรีนำร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ไปศึกษาก่อนรับหลักการ (องค์ประชุมไม่ครบ) ในระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (สุราก้าวหน้า) มีการลงมติเพื่อให้คณะรัฐมนตรีนำร่างไปพิจารณาก่อน 60 วัน แต่เมื่อตรวจสอบองค์ประชุมแล้วไม่ครบ ประธานจึงสั่งปิดการประชุม

ครั้งที่ 15 วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ระหว่างการพิจารณารับรองรายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่องผล กระทบและแนวทางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลไทยอย่างยั่งยืน (องค์ประชุมไม่ครบ) ประธานจึงสั่งปิดการประชุม ครั้งที่ 16 วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ระหว่างเข้าสู่วาระรับทราบรายงานของหน่วยงานต่างๆ แต่องค์ประชุมไม่ครบ ประธานจึงสั่งปิดการประชุมไปตามระเบียบ ส่วนครั้งที่ 17 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ในการประชุมร่วมรัฐสภา ร่างพระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. … ซึ่งมีทั้งสิ้น 12 มาตรา การพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวตลอดทั้งวัน บรรยากาศในห้องประชุมอยู่ในสภาพเงียบเหงา มี ส.ส.นั่งในห้องประชุมบางตา เมื่อเช็กองค์ประชุมไม่ครบ ประธานจึงสั่งปิดการประชุม

Advertisement

ขณะที่ครั้งที่ 18 วันที่ 10 สิงหาคม เป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ภายหลังการขานชื่อสมาชิกรัฐสภา ทั้ง 727 คน ก่อนจะก่อนลงมติมาตรา 24/1 ของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ในวาระ 2 นานกว่า 2 ชั่วโมง ประธานสั่งเช็กองค์ประชุม ก่อนที่สมาชิกจะมีจำนวนไม่ครบ ที่ประชุมจึงล่มไปอีกครั้ง ส่วนครั้งที่ 19 วันที่ 15 สิงหาคม เป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณามาตรา 24/1 ของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ. … ในวาระ 2 แต่ด้วยกลเกมทางการเมืองของทั้งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคเพื่อไทย (พท.)

รวมทั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมรัฐสภา อาศัยกลไกตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 ไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม ในการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ผ่านวาระที่ 2 และวาระ 3 เพื่อไม่ให้สาระสำคัญ ของการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่หารด้วย 500 คน ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภา ซึ่งวันที่ 15 สิงหาคม ถือเป็นวันสุดท้ายที่กระบวนการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะครบ 180 วัน นับจากวันที่ที่ประชุมรัฐสภามีมติรับหลักการ แต่เมื่อประธานที่ประชุมเช็กเสียงสมาชิกตั้งแต่เปิดการประชุม ในเวลา 09.00 น. ผ่านไปจนถึงเวลา 10.28 น. ปรากฏว่ามีสมาชิกแสดงตนเพียง 355 คน ซึ่งไม่ครบองค์ประชุม คือ 364 คน ประธานจึงสั่งปิดการประชุม เพราะไม่สามารถเปิดการประชุมได้ จึงต้องสั่งปิดการประชุมไปอีกครั้ง

ซึ่งการประชุมรัฐสภาที่ล่มตั้งแต่ครั้ง 17-19 นั้น ถือว่าทั้งฝ่ายค้าน อย่างพรรคเพื่อไทย (พท.) งัดทุกกลไกและเกมการเมือง เพื่อไม่ให้การประชุมรัฐสภาเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งการไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม การวอล์กเอาต์ การยื่นญัตติของนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรค พปชร.และ ส.ว. ส่วนใหญ่เล่นเกมไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมด้วย เพื่อนำไปสู่เป้าหมายให้ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสูตรหาร 500 ให้ตกไป แม้แต่ละฝ่ายจะอ้างเหตุผลและความชอบธรรม ในการทำให้สภาล่ม

Advertisement

แต่ทั้งหมด ทั้งมวล คงอยู่ที่ประชาชนและผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เฝ้ามองอยู่ภายนอก จะเป็นผู้ตัดสินว่าการกระทำดังกล่าวมีความเหมาะสมต่อการทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภาหรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image