‘บิ๊กโจ๊ก’ แถลงรวบอีก 3 น.ร.ชาย คดีบุกหอขืนใจนักเรียนหญิงกักโควิด
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ จ.เพชรบูรณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ ผอ.ศพสด.ตร. แถลงข่าวเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม เวลา 20.00 น. ร่วมกับ พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.สุรชาติ จึงดำรงกิจ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผบก.ภ.จ.เพชรบูรณ์, พ.ต.อ.รณฤทธิ์ สุธาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์, นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ รวมทั้งผู้แทนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (สพม.) จังหวัดเพชรบูรณ์ ถึงความคืบหน้าคดีนักเรียนหญิงถูกนักเรียนชายข่มขืนภายในห้องพักกักตัวผู้ติดโควิด โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในท้องที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา มีตัวแทนเอ็นจีโอร่วมรับฟังด้วย
อ่าน :
– ไล่ออกแล้ว 5 นร.ชาย คดีบุกหอพักขืนใจนร.หญิงรุ่นพี่
– ‘ตรีนุช’ เดือด! สั่งย้าย ผอ.เข้ากรุ เซ่นปมรุ่นน้องบุกหอข่มขืนรุ่นพี่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ผลทางคดีในพื้นที่ทำไปเรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาแถลงเพราะมีการเผยแพร่ไปในทางโซเชียล ทำให้สังคมเข้าใจสับสนว่าครูมีส่วนเกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมสนับสนุนในการทำผิดของเด็กและรู้เห็นเป็นใจ ละเลย ไม่ได้ทำหน้าที่ดูแลเด็ก ซึ่งประเด็นเหล่านี้ถูกเผยแพร่ไปทางโซเชียลมีเดียมากมายจนทำให้สังคมเข้าใจผิดไปกันใหญ่
“วันนี้การบังคับใช้กฎหมายเราทำอย่างตรงไปตรงมา ผมและผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งผู้บังคับการจังหวัด และผู้กำกับ เราตรวจสอบทั้งหมดแล้วตั้งแต่เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่บริเวณโรงเรียน ห้องพักที่เกิดเหตุเป็นห้องกั้นไว้สำหรับผู้ป่วยโควิดอยู่บนชั้นบน ครูอยู่ชั้นล่างของอาคาร คือถ้าครูมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยก็จะถูกดำเนินคดี แต่ตรวจสอบแล้วครูไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว
ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ผู้ปกครองเด็กไปร้องมูลนิธิปวีณาฯ เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาประธานมูลนิธิปวีณาฯ พาน้องมาพบตนจึงรับข้อมูลไว้ทั้งหมด ในขณะที่ทาง ผบก.จังหวัดและ ผกก.ก็ทำคดีอยู่แล้ว จากการสอบสวนคัดแยกพบผู้กระทำผิดเพิ่มเติมอีก 3 คน โดยกระทำชำเราและล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก วันนี้จึงดำเนินคดีทั้งหมด 4 คน
คนแรกข่มขืนกระทำชำเรา ส่วนอีก 3 คนก็กระทำชำเราต่อเด็กที่เป็นคู่ๆ ซึ่งในทางคดีจะเร่งรัดผลการสอบสวนและจะขออนุมัติต่อศาล เพื่อขอสืบพยานล่วงหน้า เพื่อให้กระบวนการพิจารณาคดีรวดเร็วขึ้น คดีนี้ตำรวจได้ดำเนินการไปอย่างครบถ้วน สำนวนรัดกุม น่าจะสั่งคดีได้ภายในไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ต่อพนักงานอัยการ
“พ่อแม่มีส่วนสำคัญในการดูแลเอาใจใส่ โรงเรียนเป็นอันดับสองรองลงมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะร่วมกับทางผู้ว่าฯทุกจังหวัดและกระทรวงมหาดไทย ผมจะเน้นไปที่โรงเรียนเป็นหลักในเรื่องของการป้องกัน สังเกตได้ว่ามีครูล่วงละเมิดทางเพศเยอะ ทั้งที่ครูเป็นบุคคลที่เด็กไว้เนื้อเชื่อใจ วันนี้จึงควรจะเน้นหนักไปที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ร่วมกับเอ็นจีโอ” ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.รณฤทธิ์ สุธาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นเด็กเยาวชนทั้ง 4 ราย ได้ส่งตัวไปดำเนินคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.เพชรบูรณ์ ขณะนี้การสอบสวนคดีเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงประวัติพิมพ์มือผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย และการสืบเสาะของสถานพินิจ ขณะที่เด็กบางส่วนได้รับการประกันตัวไป และบางส่วนยังถูกกักขังอยู่ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก
รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบให้โรงเรียนรวบรวมคุณครูที่ดูแลหอพักเพื่อถอดบทเรียนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมีข้อบกพร่องจากกระบวนการหรือสถานที่อย่างไร จากนั้นจะทำเป็นโมเดลเพื่อดูแลเด็กต่อไป
ส่วน น.ส.ณิชาภัทร วิบูลย์พานิช พม.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า เคสนี้ไม่เข้าข่ายได้รับเงินชดเชยเยียวยา พม.ได้เข้าไปให้กำลังใจและให้คำแนะนำเด็ก ซึ่งปัจจุบันเด็กกลับสู่สภาพเดิมและไม่ได้ถูกคุกคาม ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขอให้ทาง พม.จังหวัดช่วยติดตามดูแลใกล้ชิดเด็กในช่วงก่อนมีการสืบพยานล่วงหน้า และกำชับ ผกก.ให้ซักซ้อมการให้การก่อนเพื่อไม่ให้เด็กตื่นจนตกประเด็น
ในขณะที่ รอง ผบก.ภ.เพชรบูรณ์แจ้งเพิ่มเติมว่า มีผู้เสียหาย 3 ราย ยื่นขอเยียวยากับสำนักงานยุติธรรมจังหวัด
ข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ก่อเหตุที่ตกเป็นผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก 3 รายนั้น ได้แก่
1.นายสอง (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ผู้ก่อเหตุกระทำชำเราเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี
2.นายสาม (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ผู้ก่อเหตุกระทำชำเราเด็กหญิงซี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี
3.เด็กชายสี่ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ผู้ก่อเหตุกระทำอนาจารเด็กหญิงดี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี โดยผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย จะถูกดำเนินคดีในฐานความผิดกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
