วันที่ 6 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้ชื่อเฟสบุ๊กว่า “ต้นมิวสิค ภูเก็ต” ได้มีการแพร่ภาพสดทางเฟสบุ๊กความยาวประมาณ 9 นาที พร้อมระบุข้อความว่า “แขก…มาเช่าห้องอยู่ 2 วัน สภาพเหมือนอยู่เป็นเดือนเลยครับ” โดยในช่วงที่มีการแพร่ภาพสด เจ้าของเฟสบุ๊กได้พยายามถ่ายให้เห็นความสกปรกของห้องพัก และอธิบายประกอบอย่างละเอียด จนมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมไปยัง เจ้าของเฟสบุ๊ก คือ นายต้น (ขอสงวนชื่อ – สกุลจริง ) อายุประมาณ 45 ปี เล่าว่า ห้องดังกล่าวเป็นห้องของแมนชั่นรายวันแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้ใกล้กับสนามบินนานาชาติภูเก็ต ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียซึ่งเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่งอายุประมาณ 40 -50 ปี ขับขี่รถยนต์เก๋งฮอนด้าแจ้ส สีขาว มาขอจองห้องพักก่อนจะมาเข้าพักในวันที่ 3 – 4 มิถุนายน เป็นเวลา 2 วัน ซึ่งทั้งสองคนอัธยาศัยดี พูดภาษาอังกฤษได้ ก็เข้าพักตามปกติ ไม่มีสิ่งได้ผิดสังเกตุ ซึ่งช่วงที่เข้าเช็กอินห้องพักก็พากระเป๋าแค่ 2 ใบ โดยช่วงที่พักฝ่ายชายจะไม่ค่อยอยู่ห้อง มีเพียงฝ่ายหญิงที่ไม่ค่อยออกไปข้างนอก ซึ่งก็เป็นปกติ ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มิถุนายนซึ่งเป็นวันที่ 2 ที่เข้าพัก แม่บ้านจะของแมนชั่นเคาะประตูเพื่อขอเข้าไปทำความสะอาดให้ แต่นักท่องเที่ยวฝ่ายหญิงระบุว่า ยังไม่จำเป็นต้องทำ แม่บ้านจึงไม่ได้ถามต่อเนื่องจากเป็นปกติที่แขกมักจะปฏิเสธเมื่อห้องยังไม่สกปรก หรือต้องการความเป็นส่วนตัว
นายต้น กล่าวว่า กระทั่งในเวลาประมาณ 07.00 น. ของวันที่ 5 มิถุนายน นักท่องเที่ยวสองสามีภรรยาได้เช็กเอาท์ และคืนกุญแจห้องพักซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ไปตรวจสอบที่ห้องก่อนเนื่องจากแมนชั่นไม่มีบริการเครื่องดื่มเช่นที่อื่นๆ จึงรับคืนกุญแจตามปกติ ก่อนที่ทั้งสองจะไปขึ้นเครื่องที่สนามเพื่อกลับประเทศ จากนั้นไม่นานแม่บ้านของแมนชั่นได้เข้าไปทำความสะอาด ก็ถึงกับตะลึงเมื่อพบว่าในห้องมีสารพัดขยะเต็มห้องจึงรีบไปตามตนเองมาดู โดยพบว่าขยะดังกล่าวมีทั้งถุงพลาสติก ขวดน้ำ เศษกระดาษ เศษอาหาร เศษซากอาหารทะเล เช่น กะดองปู กะดองแมงดาทะเล ผลไม้เช่นลิ้นจี่ กองเรี่ยราดอยู่ทั่วห้อง ตั้งแต่หน้าประตู ใต้เตียงนอน ข้างๆเตียงนอน ในห้องน้ำ หน้าประตูระเบียงหลังห้อง และมีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วห้อง ตนเองจึงรีบไลฟ์สด เพื่อให้ดูว่ามีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นจริง ก่อนให้แม่บ้านช่วยกันเก็บขยะและเร่งทำความสะอาดอย่างละเอียด โดยต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดและนำยาดับกลิ่นฉีดหลายรอบ ก่อนเปิดห้องทิ่งไว้เพื่อให้อากาศถ่ายเท
ต่อมา ตนเองเกิดความสงสัยในที่มาของขยะดังกล่าวจึงได้ไล่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดของแมนชั่นทั้งหมด พบว่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 4 มิถุนายน นักท่องเที่ยวชายได้ขับรถออกไป ก่อนจะกลับมาอีกครั้งประมาณ ตี 1 ซึ่งขณะเข้ามาได้ถอยรถมาจอดในลักษณะหันท้ายรถเข้า ก่อนจะเปิดฝากระโปรงท้าย และขนถุงพลาสติกและถุงผ้าทั้งสีดำ สีขาว ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ประมาณ 5 – 6 ใบ เข้าห้องพักไป ก่อนจะมาพบอีกครั้งว่าเป็นขยะกลาดเกลื่อนในห้องในช่วงเช้า
ทั้งนี้ตนตั้งข้อสังเกตว่า ขยะจำนวนมากขนาดนั้นไม่ใช่ขยะที่เกิดจากการซื้อกิน ซื้อใช้ แน่นอน แต่คาดว่าอาจจะไปเก็บถุงขยะจากร้านค้า ร้านอาหารซีฟู้ดในแถบพื้นที่หาดในยาง มาทำการรื้อค้นดูภายใน ก่อนทิ้งไว้ในห้อง เพราะขณะที่พักอยู่นั้นนักท่องเที่ยวชายเคยถามตนเองว่า ร้านอาหารซีฟู้ดใกล้ๆแมนชั้นอยู่บริเวณไหน และปิดเวลาเท่าไหร่ และที่น่าแปลกเข้าไปใหญ่ ในห้องน้ำไม่มีร่องรอยการใช้น้ำ หรืออาบน้ำ สบู่ที่เตรียมไว้ไม่มีการแกะจากห่อ สรุปคือนักท่องเที่ยวพัก 2 วันไม่มีการอาบน้ำ ซึ่งเป็นข้อสังเกตุที่เชื่อมโยงกัน และหากเป็นเช่นนั้นจริง การกระทำดังกล่าวทำเพื่อจุดประสงค์ใดนั้นตนเองไม่ทราบ หรืออีกมุมคือนักท่องเที่ยวอาจมีอาการทางจิตก็เป็นไปได้ และนอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการห้องพักรายหนึ่งซึ่งอยู่ในตัวเมืองภูเก็ต สอบถามมาที่ตนเองว่า จะขอดูภาพสองนักท่องเที่้ยวได้หรือไม่ เพราะสถานประกอบการของเขาเจอเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน แต่ตนเองไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ จึงปฏิเสธไป
