| ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
“โอกาส” เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็อยากได้ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้ตนเอง
บางคนได้รับโอกาสบ่อย ไม่พยายามทำให้เต็มที่ สุดท้ายไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่กับเยาวชนกลุ่มนี้ไม่ใช่ เพราะโอกาสเข้ามาหานานทีปีหน ยิ่งจะไขว่คว้าให้ได้ก็ต้องพยายามมากกว่าคนทั่วไป 2 เท่า
ก่อนคัดเลือกได้ออกมาเป็น 10 นักฟุตบอลเยาวชนตัวแทนทีมชาติไทย ที่จะไปแข่งขันฟุตบอลเด็กกำพร้าจากสถานสงเคราะห์ทั่วโลก ครั้งที่ 6 (The 6th Football World Cup of Children from Care Homes) ระหว่างวันที่ 25-31 กรกฎาคม ณ สนามกีฬา Legia กรุงวอร์ซอ สาธารณรัฐโปแลนด์
โดยฟุตบอลทัวร์นาเมนต์นี้คือการที่แต่ละประเทศได้คัดเลือกและส่งเด็กและเยาวชนกำพร้าในสถานสงเคราะห์มาแข่งขันฟุตบอล 6 คน ที่จัดแข่งขันทุกปี ซึ่งปีนี้มี 27 ประเทศเข้าร่วม อาทิ เยอรมนี รัซเซีย สเปน โครเอเชีย ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ฯลฯ
สำหรับประเทศไทย กรมกิจการเด็กและเยาวชนได้เปิดให้เด็กและเยาวชนจากสถานสงเคราะห์ 16 แห่งทั่วประเทศ มาสมัครและคัดเลือกให้เหลือ จำนวน 50 คน เพื่อเข้ารับการพัฒนาทักษะและความสามารถกีฬาฟุตบอล ในศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลเยาวชน จากนั้นจะคัดเลือกให้เหลือ 10 คนเพื่อเป็นตัวแทนประเทศไปแข่งขัน
เริ่มที่ โฮม-รัฐพงษ์ สมานเสรีศักดิ์ อายุ 14 ปี ตำแหน่งกองหน้าอายุน้อยที่สุดในทีม อยู่ในสถานสงเคราะห์มา 5 ปี เล่าว่า ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับโอกาสดีๆ อย่างนี้มาก่อน โอกาสที่ได้จึงเหมือนฝันที่เป็นจริง ซึ่งรู้สึกดีใจ ภูมิใจ และจะพยายามทำให้เต็มที่ โดยที่ผ่านมาพวกเราฝึกซ้อมวันละ 2 ชั่วโมง ควบคู่ไปกับการเรียนในโรงเรียน ซึ่งตนก็มองว่าแม้ทีมเราจะเสียเปรียบเรื่องรูปร่างที่เล็กกว่าชาติอื่นๆ แต่ก็มีจุดแข็งเรื่องความรวดเร็วและคล่องตัว อย่างไรก็ดี ตนมีนักฟุตบอลในดวงใจคือ เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางทีมชาติไทย ซึ่งพี่เขามีความสามารถมาก ตัวเล็กและจ่ายบอลและครองบอลดี
ขณะที่ เตอร์-วีระชล ดอนม่วง อายุ 16 ปี ตำแหน่งกองหน้าและกัปตันทีม อยู่ในสถานสงเคราะห์มา 11 ปี เล่าว่า กีฬานอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ยังสามารถต่อยอดเป็นอาชีพหนึ่งที่มีรายได้ดีได้อีกด้วย ซึ่งตนมีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และติดทีมชาติไทยในอนาคต โดยมีนักฟุตบอลที่ยึดเป็นแบบอย่างคือ มุ้ย-ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทย ที่ไปค้าแข้งในต่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนมีโอกาสไปดูฟอร์มพี่มุ้ยที่สนามแข่ง พี่เขามีพรสวรรค์มากและนิสัยดี อย่างไรก็ตาม สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ พวกเราจะตั้งใจและสร้างชื่อเสียงกลับมาให้ประเทศไทยให้ได้
บ่าว-ธีรยุทธ อินทะนะนก อายุ 15 ปี ตำแหน่งกองกลาง ซึ่งหนนี้เดินทางไปแข่งขันครั้งที่สอง อยู่ในสถานสงเคราะห์มา 10 ปี เล่าว่า การไปแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว แม้ทีมชาติไทยจะตกรอบคัดเลือก แต่ตนก็ได้รับประสบการณ์มากมายกลับมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง อย่างได้รู้และเข้าใจสไตล์การเล่นฟุตบอลของชาติอื่นๆ ฉะนั้นเชื่อว่าปีนี้น่าจะทำผลงานได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ตนมีนักฟุตบอลในดวงใจเช่นกันคือ นิว-ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางทีมชาติไทย เพราะพี่เขาจ่ายบอลดีและยิงแม่น ก็พยายามนำพี่เขามาเป็นแบบอย่าง เพราะฝันอยากเป็นกองกลางทีมชาติไทยเช่นกัน
“กีฬานอกจากจะให้โอกาสเยาวชนในสถานสงเคราะห์อย่างพวกผม ยังทำให้ร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว ก็อยากชวนทุกคนมาออกกำลังกายด้วย” ธีรยุทธกล่าวทิ้งท้าย
