เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน มักกะสัน กรุงเทพฯ นายสมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวในการแถลงข่าวมอบสัญชาติไทยให้กับนายเกื้อ อายุ 18 ปี ว่า ตามที่ กระทรวงมหาดไทยได้มีประกาศตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2559 ระบุให้คนที่เกิดในราชอาณาจักรและไม่ได้รับสัญชาติไทย สามารถขอสัญชาติไทยเป็นการเฉพาะราย โดยมีเงื่อนไขต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทยต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี และกำลังศึกษาเล่าเรียนในสถาบันการศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียน นักศึกษา และบุคคลไร้สัญชาติที่เกิดในราชอาณาจักรหรือบุคคลที่ไม่ปรากฎบิดามารดาหรือถูกบิดามารดาทอดทิ้งตั้งแต่วัยเยาว์นั้น ที่ผ่านมา ดย.ได้ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการขอสัญชาติให้เด็กและเยาวชนในสถานสงเคราะห์ที่ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 440 คน
“ขณะนี้ได้ดำเนินการขอได้สำเร็จตามประกาศดังกล่าว และถือเป็นของขวัญสำคัญในวันเด็กแห่งชาติคือ น้องเกื้ออายุ 18 ปี ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นม.6 สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี โดยน้องเกื้อถูกทอดทิ้งตั้งแต่เด็ก ทำให้ไม่ได้ขอสัญชาติ ที่ผ่านมาน้องอยู่ในการดูแลของสถานสงเคราะห์มาโดยตลอด กระทั่งมีประกาศดังกล่าวที่มอบอำนาจให้ผู้ปกครองเด็ก ในที่นี้คือสถานสงเคราะห์สามารถยื่นขอสัญชาติแทนได้ จึงดำเนินการยื่นเอกสารหลักฐานและนำมาสู่การอนุมัติดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานต่อไปในการดำเนินการขอสัญชาติไทยให้เด็กและเยาวชนไร้สัญชาติที่เหลือในสถานสงเคราะห์” นายสมคิด กล่าว
นายสุรพงษ์ กองจันทึก อดีตประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้ชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ กล่าวว่า เคสนี้จะนำไปสู่การถอดบทเรียนและอบรมเจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์ต่างๆ ในการยื่นคำร้องขอสัญชาติแทนเด็ก จากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อาจไม่เข้าใจ ไม่ทราบขั้นตอน ก็จะดำเนินการได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กไร้สัญชาติในสถานสงเคราะห์ที่มีที่มาใกล้เคียงกับน้องเกื้ออีกร้อยกว่าคนให้ได้รับสัญชาติต่อไป ซึ่งถือเป็นของขวัญวันเด็กที่สำคัญที่สุดแล้วในชีวิตพวกเขา
ด้านน้องเกื้อกล่าวสั้นๆ ว่า รู้สึกดีใจ และขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาส
