โว้ก ฮูส ออน เน็กซ์ สูบฉีดวงการแฟชั่น กับ 4 ดีไซเนอร์เลือดใหม่
เดินหน้าสนับสนุนดีไซเนอร์รุ่นใหม่ให้ได้รับโอกาสและต่อยอดธุรกิจในวงการแฟชั่นอย่างต่อเนื่อง โว้ก ประเทศไทย จัดงานเปิดตัว “Vogue Who’s on Next, The Vogue Fashion Fund 2022 Shop” (โว้ก ฮูส ออน เน็กซ์ เดอะ โว้ก แฟชั่น ฟันด์ 2022 ช็อป)
นำเสนอผลงานจากเหล่าดีไซเนอร์เลือดใหม่ 4 ผู้ชนะการแข่งขันในโครงการ ได้แก่แบรนด์ Anuruq, Marchmay, Piccoro และ Wildblueyonder ด้วยการสานฝันเปิดหน้าร้านเป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันนี้-17 กรกฎาคม 2565 ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์
กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารโว้ก ประเทศไทย เผยว่า โครงการนี้โว้กเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะส่งเสริมยังก์ ดีไซเนอร์ เพราะวงการแฟชั่นจะต้องมีเลือดใหม่เข้ามาสูบฉีดอยู่เสมอ จะทำให้วงการแฟชั่นของไทยตื่นเต้นมากขึ้น จุดแตกต่างของโครงการนี้อยู่ตรงที่เรามาหยิบเอาดีไซเนอร์ อาจจะหน้าใหม่ หรือเพิ่งเคยทำธุรกิจ 2-3 ปี ยังไม่คุ้นชินกับอุตสาหกรรมนี้ แต่เราเล็งเห็นศักยภาพจึงนำเขาเข้ามาเพื่อช่วยสร้างแบรนด์ให้เก่งทั้งด้านการออกแบบและการบริหารจัดการธุรกิจ เก่งทุกมิติถึงจะอยู่รอดได้ โครงการนี้คิดว่าน่าจะเป็นอนาคตในการช่วยเหลือยังก์ ดีไซเนอร์ ประคับประคองธุรกิจของเขาให้อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ได้
วาริณี พิสิฏพันธ์ หรือ ผ้าฝ้าย จากแบรนด์ Marchmay เผยว่า แบรนด์เปิดมา 4 ปี เอกลัษณ์ของแบรนด์เป็นเสื้อผ้าหวานอมเก๋ ที่เป็นการนำผ้าเก่า ยุค 90 กับผ้าใหม่มารวมกัน เน้นงานปัก จึงทำให้ชุดมีอย่างละชิ้นถึงสองชิ้น เป็นลิมิเต็ด สำหรับคนที่ชอบความแตกต่างไม่อยากเหมือนกัน การเข้าร่วมโครงการกับโว้กทำให้เราได้รับความรู้ที่ไม่เคยได้มาก่อน เป็นความรู้ที่ใช้ได้จริง
“เราอยากช่วยลดขยะในอุตสาหกรรมผ้า ซึ่งตอนนี้เป็นฟาสแฟชั่นเยอะ ทุกอย่างมันเร็วไปหมด จึงนำผ้าเก่าที่ดีไซน์รวมกับผ้าไหม เกิดเป็นโปรดักซ์ใหม่ขึ้นมา เน้นงานปักที่ละเอียดประณีต ที่ หายากในชีวิตปัจจุบัน เป็นแบบหวานอมเก๋ และช่วยสังคมในการลดการใช้ผ้า” ผ้าฝ้ายกล่าว
ด้าน ยุวรินทร์ รัชตะชัยอนันต์ หรือเมษา และ สุทธิวงศ์ นุ่มอุไร หรือเซนเซอร์ แห่งแบรนด์ Wildblueyonder เผยว่า แบรนด์เปิดมา 4 ปี เป็นเสื้อผ้าสไตล์รีสอร์ท เหมาะกับการท่องเที่ยวและเดินทาง ซึ่งเกิดจากความชอบของเราที่ชอบท่องเที่ยวและเดินทาง และชอบศิลปะ จึงทำลายผ้าออกมาเอง สินค้าจะมีชุดว่ายน้ำ และเป็นเสื้อผ้าสำหรับท่องเที่ยวพริ้วๆ สีสัน ใส่สบาย การได้เข้ามาร่วมโครงการกับโว้กเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้ได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการที่ทำให้เรามีโอกาสได้เติบโต มีโฟกัสชัดขึ้น เป็นไดเรคชั่นที่ชัดเจน
“ฝากถึงดีไซเนอร์ที่เพิ่งเริ่มทำแบรนด์ สิ่งสำคัฐคืออย่าหยุดทำ มันไม่มีทางที่มาถึงแล้วประสบความสำเร็จหรือเจอทางของเราเลย เราจะต้องผ่านการเรียนรู้จากตัวเราเอง เป็นประสบการณ์ที่เราเจอจริงๆเอง เหมือนต้องหาสูตรของตัวเองให้เจอ สูตรของแต่ละแบรนด์จะไม่เหมือนกันในการที่จะไปถึงเป้าหมาย” ดีไซเนอร์ทั้งสองกล่าว
ชนิกานต์ สิทธิศักดิ์สมพร และ มิติ ธรรมเจริญ เจ้าของแบรนด์ Piccoro กล่าวว่า แบรนด์เสื้อผ้าเน้นความเซ็กซี่ ปลุกความมั่นใจให้ผู้หญิงกล้าแต่งตัว สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวัน หรือนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ สินค้าขายออนไลน์เป็นหลัก ทำธุรกิจมา 3 ปีแล้ว เอกลักษณ์ของแบรนด์ชัดเจน คนเห็น
เสื้อผ้ารู้ว่าแบรนด์อะไรโดยไม่ต้องเห็นป้าย เข้าแข่งขันโครงการนี้ได้เรียนรู้ระบบการบริหารจัดการหลังบ้าน วางแผนการตลาด จัดทำบัญชี จัดการสต็อก องค์ความรู้ต่างๆ จาก โว้ก ประเทศไทย ทำให้เราบริหารธุรกิจดีขึ้น ที่ผ่านมา เคยออกร้านงานแฟร์ นี่เป็นครั้งแรกขึ้นห้างขายสินค้าจริง ปัจจุบันรายได้หลักมาจากออนไลน์ และเริ่มบุกตลาดออนไลน์ที่เกาหลีขยายตลาดต่างประเทศ วันที่ 25 มิ.ย.จะจัดอินสตอลเลชันของ Piccoro อยากชวนลูกค้ามาถ่ายรูป เช็คอินกัน รับส่วนลดพิเศษ
ส่วน อนุรักษ์ ใจดี ดีไซเนอร์เลือดใหม่แบรนด์ Anuruq กล่าวว่า คอลเลคชั่นพิเศษ“Diversity” เสนอความหลากหลายทางอารมณ์และจินตนาการถ่ายทอดลงบนเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์ ดูดี มีสไตล์ มีดีเทล แต่ละตัวให้ความรู้สึกแตกต่างกัน ไอเทมของแบรนด์เป็นหนังสังเคราะห์ที่ใส่แมทซ์กับแจ็คเก็ตสูท สร้างสไตล์แปลกใหม่
“แบรนด์ Anuruq เริ่ม 2 ปี ช่วงโควิดพอดี เราปรับตัวด้วยการขายของออนไลน์แบบ Made to oder ไม่มีหน้าร้าน จัดทำตารางไซส์ส่งให้ลูกค้าเพื่ออำนวยความสะดวก มีบริการปรับแก้ทรงหลังการขาย รู้จักโครงการ Vogue Who’s on Next ตั้งแต่เรียนแฟชั่น ฝันว่าถ้ามีแบรนด์ของตัวเอง จะนำแบรนด์ร่วมโครงการ เพราะทำให้รู้ข้อดีและข้อเสียนำสู่การปรับเปลี่ยนให้แบรนด์ได้ไปต่อ การมีหน้าร้านเป็นโอกาสให้ลูกค้าทำความรู้จักแบรนด์และเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ “ อนุรักษ์เผยถ้าธุรกิจเติบโตอาจจะมีหน้าร้าน
เลือดใหม่วงการแฟชั่น