| ที่มา | หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน หน้า 20 |
|---|---|
| คอลัมน์ อร่อยอินเทรนด์ | |
| เผยแพร่ |
แป๊ะโจ๊กหม้อทองเหลือง 38 ปี อร่อยสมมง ‘บิบ กูร์มองด์’ มิชลิน ไกด์ 64
เจ้ายุทธจักรอาหารจีนไม่ได้รวมตัวอยู่แต่ในเยาวราช หากยังมีอีกหนึ่งจอมยุทธ์ ที่ได้ร่ายเสน่ห์ปลายจวักย่านบางโพ บอกต่อความอร่อยกันปากต่อปากกับร้าน “แป๊ะโจ๊กหม้อทองเหลือง 38 ปี”
ล่าสุดดังเปรี้ยงปร้างขนาดที่ว่ายูทูบเบอร์เกาหลี ยังต้องมารีวิว เพราะถูกคัดเลือกให้เป็นร้านโปรดของผู้ตรวจสอบมิชลิน ที่เสิร์ฟอาหารคุณภาพดีในราคาไม่เกิน 1,000 บาท หรือเรียกว่า “บิบ กูร์มองด์” (Bib Gourmand) ประเภทร้านอาหารริมทาง (Street Food) แนะนำในคู่มือ “มิชลิน ไกด์ ไทยแลนด์ 2021”
ต้อนรับเข้าร้านด้วยความหอมกรุ่นของอาหาร ระหว่างรอยังได้เติมเต็มพลังชีวิตกับเบื้องหลังความสำเร็จที่กำแพงร้าน จากรุ่นอากงที่เข็นรถเล็กๆ ขายโจ๊กสูตรแต้จิ๋วหน้าตลาดบางโพ เก็บหอมรอมริบจนขึ้นอาคารพาณิชย์ได้ในรุ่นพ่อ ปัจจุบันสืบทอดต่อโดยรุ่นลูก เป็นเวลา 60 ปีแห่งความเปลี่ยนแปลง แต่รสชาติไม่เคยเปลี่ยน
ที่สำคัญการันตีว่า “เราไม่เหมือนใคร”
เถลิงเดช ปิยธรรมรัตน์ เจ้าของร้านแป๊ะโจ๊กหม้อทองเหลือง 38 ปี เล่าว่า แป๊ะโจ๊กฯ ไม่เหมือนร้านโจ๊กทั่วไปที่ตักๆ ของมาใส่ แต่ของเราคือใส่เครื่องสดๆ มาต้มกันหม้อต่อหม้อ
เคล็ดลับความอร่อยเริ่มตั้งแต่หม้อต้มโจ๊ก ร้านแป๊ะโจ๊กฯ พิถีพิถันกับหม้อต้มที่สั่งตีเป็นพิเศษ ในอดีตเคยใช้เศษใบพัดเรือบินมาตีเป็นหม้อ มีคุณสมบัติทนต่อความร้อน แม้ใช้ไฟแรงก้นหม้อก็ไม่ทะลุ ขณะเดียวกันยิ่งทำให้อาหารส่งกลิ่นหอม กระทั่งรุ่นพ่อมาเปลี่ยนใช้หม้อทองเหลือง มีคุณสมบัติร้อนเร็ว อาหารส่งกลิ่นหอม ต้มแล้วไม่ไหม้ และมีความร้อนระอุอยู่ตลอด ตามคอนเซ็ปต์ของร้านว่า “ร้อนยันคำสุดท้าย”
เริ่มลิ้มลองเมนูไฮไลต์ “โจ๊กหมูไข่ระเบิด” (45-50 บาท) เนื้อโจ๊กสุดละมุนไม่เหมือนทั่วไป เพราะทำจากข้าวหอมมะลิเต็มเม็ด เอามาตีกับไข่ไก่คุณภาพดีจนสีโจ๊กเหลืองนวล กินเข้ากั๊นเข้ากันกับหมูบดก้อนนุ่มๆ ที่ร้านพิถีพิถันสั่งเนื้อหมูแผ่นหลังแท้ตรงจากโรงงาน นำมาบดและหมักเองตามสูตรของอากง อร่อยได้ทุกเพศทุกวัย หรือจะลิ้มลอง “โจ๊กปลากะพงไข่ระเบิด-โจ๊กทะเลไข่ระเบิด” (60 บาท) ก็ฟินสุดสุด และยังเอาใจสายมังสวิรัติกับ “โจ๊กแป๊ะก๊วยใส่ไข่-โจ๊กเห็ดหอมใส่ไข่-โจ๊กสาหร่ายใส่ไข่” (35 บาท)
วัตถุดิบคุณภาพเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของร้านแป๊ะโจ๊กฯ เกือบทั้งหมดคือ ร้านสั่งตรงจากผู้ผลิต นำมาทำเอง ไม่เพียงเนื้อหมู ยังมีปลากะพงขาวไร้ก้าง กุ้ง หมึก ตลอดจนหอยนางรม ที่คัดสดใหม่และไซซ์ใหญ่ส่งตรงจากฟาร์ม ถูกนำมาพัฒนาต่อยอดในอีกกว่า 25 เมนู
เมนูฮิตๆ ถัดมา “ปลากะพงลวกจิ้ม” (100 บาท) เอาเนื้อปลากะพงหั่นชิ้นกำลังพอดี จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ร้านทำเอง สูตรเฉพาะอีกเช่นกัน เคลิบเคลิ้มความ “นุ่ม แซ่บ หอม” จนอยากห่อน้ำจิ้มที่เหลือกลับไปกินต่อที่บ้าน สามารถรับประทานเปล่าๆ หรือคู่กับข้าวก็ได้ กับเมนู “ข้าวต้มแห้งทะเล-ข้าวต้มแห้งปลากะพง” (80 บาท) ให้เครื่องเยอะ รับประทานคู่กับน้ำซุป น้ำจิ้มซีฟู้ดหรือเต้าเจี้ยว ก็อร่อยไม่เหมือนใคร
ยังมีเมนูยอดฮิตอย่าง “ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่หมึกกรอบ” (60 บาท) นำเส้นใหญ่ขนาดเท่าฝ่ามือมาผัดกับอกไก่ รับประทานเครื่องจุใจ ไม่มันน้ำมัน และยังมีกลิ่นหอมของกระทะ ล่าสุดยังพัฒนาเพิ่มเส้นกรอบ จนได้อรรถรสคล้ายๆ เมนูหอยทอด บอกเลยต้องลอง
ปิดท้ายด้วยเมนู “กระเพาะปลาน้ำแดงเห็ดหอม” (60 บาท) เมนูสูตรเฉพาะที่นำกระเพาะปลาเนื้อนุ่มจากเยาวราช ใส่เห็ดหอมกรุบๆ เข้ากันในน้ำรสชาติเข้มข้น อร่อยจนวางช้อนไม่ลง นอกจากนี้ ยังมีสามารถสั่งเมนู “หมูบะเต็ง”
ที่เดี๋ยวนี้มีเฉพาะร้านเก่าแก่เท่านั้นที่ทำ มารับประทานคู่กับหอยนางรมก็เก๋ หรือจะรับประทานคู่กับโจ๊กก็อร่อยไปอีกแบบ
รับประทานกับน้ำดื่ม “แป๊ะก๊วยน้ำลำไย” (30 บาท), “น้ำลำไย-น้ำเก๊กฮวย” (15 บาท) ที่ทางร้านพิถีพิถันทำเอง ก็หวานเย็นชื่นใจ อร่อยคุ้มราคาอย่างไม่แปลกใจติด 1 ใน 16 ร้านรางวัลบิบ กูมองต์ จาก 119 ร้านเด็ดที่เข้าคัดเลือก
“บางคนบอกว่าราคาอาหารร้านแป๊ะโจ๊กค่อนข้างสูง แต่หากมองคุณภาพวัตถุดิบและกรรมวิธีแล้ว จะเห็นว่ามันไม่แพงเลย ส่วนตัวรู้สึกยินดีกับรางวัลนี้ จะเป็นกำลังใจให้ร้านเรารักษาคุณภาพต่อไป ก็อยากเชิญชวนให้ลองมารับประทาน ร้านเราอาจไม่ใหญ่ แต่เต็มใจ จริงใจ และยุติธรรมเหมาะสมคุณภาพกับราคา” เถลิงเดชเล่าด้วยรอยยิ้ม
ร้านแป๊ะโจ๊กฯ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.
สามารถเดินทางได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.รถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที ลงสถานีบางโพ ออกทางประตู 2 บี แล้วเดินย้อนขึ้นมาเกือบถึงซอยประชาราษฎร์ 20 2.รถยนต์ส่วนบุคคล จอดรถที่ห้างสรรพสินค้าเกตเวย์บางซื่อ แล้วเดินมาปากซอยประชาราษฎร์ 20 และ 3.เรือ ลงท่าเรือบางโพ แล้วข้ามถนนมาก็เจอเลย
ร้านเด็ดมิชลิน ไกด์ ไทยแลนด์ 2021
