หมอ ไขข้อข้องใจ การมีบุตรทำให้อ้วนขึ้นจริงหรือ! พร้อมข้อปฏิบัติหลังคลอด ให้หุ่นปัง
เป็นเรื่องคาใจของหลายคนที่ตัดสินใจไม่อยากมีลูก หรือที่มีแล้วก็ไม่อยากมีอีก เพราะเชื่อว่ามีลูกแล้ว หุ่นจะเสีย! จะอ้วนลงพุง! จึงต้องเอาข้อมูลทางการแพทย์มายืนยัน ว่าความเชื่อนี้จริงหรือไม่!
โดย ผศ.นพ. วรวุฒิ เชยประเสริฐ หรือหมอวิน แอดมินเพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ และในฐานะพ่อลูกอ่อน โพสต์ถึงเรื่องนี้ตอนหนึ่งว่า ยามที่เราท้อง โดยเฉลี่ยแล้วนั้นน้ำหนักจะขึ้นอยู่ประมาณ 11-16 กก. และแน่นอนว่าอยู่ที่ลูกเพียง 3-4 กก. เท่านั้น (ลูกประมาณ 3 และรกอีกสักครึ่งขีด) ที่เหลือคือ ไขมัน และการบวมน้ำ จากการตั้งท้องล้วน ๆ ท่องเอาไว้ดัง ๆ ว่าที่ น้ำหนักขึ้นนี่ ทำเพื่อลูกล้วน ๆ ไม่ใช่เพราะแม่นั้นตามใจปากแต่อย่างไร
นั่นหมายความว่า ลูกเกิดออกมาแล้ว น้ำหนักจะยังอยู่กับแม่อีกร่วม 10 กก. บางคนอาจค้างถึง 13-15 กก. ถ้าน้ำหนักขึ้นเยอะเกินระหว่างตั้งท้อง ไม่ใช่ภาวะรกค้างแต่อย่างใด
โดยหลังคลอดทุกอย่างจะค่อย ๆ ปรับเข้าสู่สมดุลใหม่ของคุณแม่ ส่วนหนึ่งก็คือ น้ำหนักลดลงจนเป็นปกติของก่อนตั้งท้อง ผอมเพรียวเหมือนเดิม ยกเว้นมีความหย่อนยานมากขึ้นโดยเฉพาะหน้าท้องและเต้านม อันนั้นก็ทำใจ และค่อย ๆ ฟิตกล้ามเนื้อหน้าท้องกันไป ลูกและมดลูกนั้นถ่างกล้ามเนื้อหน้าท้องเยอะจนทำให้มีความหย่อนคล้อยได้เป็นธรรมดา
สงสัยกันไหมครับว่า ทำไมชั้นอ้วน วันนี้มาทำความเข้าใจกันครับ
คน ๆ หนึ่งจะอ้วนได้ขึ้นกับ 2 ปัจจัยหลักคือ กินเกินใช้ และระบบเผาผลาญพัง ซึ่งเกิดได้ง่ายมาก ๆ ในหญิงตั้งครรภ์
1.การกินเกินใช้ หลายคนยังกินโหดเหมือนโกรธใครมาเฉกเช่นเดียวกับตอนตั้งท้อง ยิ่งต้องดูแลลูกก็ยิ่งหิว บางคนยิ่งเหนื่อยก็ยิ่งหิว กำลังกายก็ไม่ได้ออก มากสุดก็อุ้มลูกเดินไปมา ซึ่งมันใช้พลังงานไม่ได้มากเท่าที่เราคิดหรอกครับ ขนมนมเนยของหวาน น้ำผลไม้ หลายคนกินตลอดเวลา
ที่เจอบ่อยไม่แพ้กันก็คือ เลิกให้นมแม่เร็วเกินไป ยิ่งเลิกเร็วน้ำหนักจะยิ่งพุ่งง่าย เพราะการให้นมแม่คือวิธีการลดน้ำหนักชั้นดี เนื่องจากร่างกายจะเสียพลังงานไปจากร่างกายอย่างน้อย 500-800 แคลอรี่/วัน จากการให้นม นั่นจึงเป็นเหตุว่า ยิ่งให้นมแม่ยิ่งผอมง่ายกว่า แต่ก็นะ หากกินโหดมาก ๆ บางที น้ำหนัก ก็ยังพุ่งได้ครับ
2.ระบบเผาผลาญพัง เพราะนอนน้อย เรียกได้ว่าบางคนจะอึยังไม่ค่อยมีเวลาเลย ยิ่งผสมโรงกับลูกที่พื้นอารมณ์ยากร้องไห้เยอะอีก กินก็ไม่เป็นเวลา อาหารเช้าก็มักไม่ได้กิน กินก็เป็นกินจุบจิบไม่ได้กินเป็นมื้อ นอนก็ไม่พอ นาฬิกาชีวิตพัง ง่วง ๆ เบลอ ๆ เหมือนจุดอับสัญญาณ เออเร่อเป็นพัก ๆ เหล่าทำให้ระบบเผาผลาญเพี้ยนไปจากเดิม
ดังนั้นหากไม่อยากเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วนหลังมีลูก ก็จงพยายามกินให้ดี นอนให้พอพัก ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และที่สำคัญที่สุด ให้นมแม่ให้มากที่สุดและนานที่สุด เท่าที่จะทำได้ แล้ว น้ำหนักมันจะคุมไม่ยากครับ ยิ่งเข้าเต้าท่านอนแล้วด้วยนั้น หากบรรลุเคล็ดวิชา คุณแม่จะสามารถนอนไปให้นมไป ปัญหาการนอนจะลดลงไปด้วย
นมแม่ไม่ได้มีดีแค่คุณค่าทางอาหาร แต่ประหยัดและผอมง่าย
ปล. ไม่แนะนำให้คุณแม่หลังคลอดโดยเฉพาะให้นมแม่อยู่ ลดความอ้วนด้วยวิธีลดน้ำหนักด้วยความรวดเร็วเกินไป โดยการจำกัดแคลอรี่แบบ extreme นะครับ แม่ขาดอาหาร ลูกอาจแย่ได้ ส่วนการทำ Intermittent Fasting สามารถทำได้ด้วยความระมัดระวัง ต้องดูเรื่องพลังงานที่ได้รับต่อวันให้ดี และเฝ้าสังเกตอาการแทรกซ้อนของ IF ให้ดีครับ ทางที่ดี อย่าหาทำ ไม่กินเกินใช้ก็พอแล้ว น้ำหนักก็จะค่อย ๆ ลดลงมาได้ครับ เพราะสเต็ปแรก น้ำหนัก จะลดลงเฮือกแรกอยู่แล้ว เพราะการขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย จากนั้นคือไขมันที่สะสมล้วน ๆ ครับ ที่ต้องใช้เวลาในการลดลง
พฤติกรรมหลังคลอดต่างหาก ไม่ใช่การมีลูก ที่ทำให้คุณแม่อ้วน…
