อยู่ที่เงียบได้ยินเสียงลม-จิ้งหรีด รีบเช็กปัญหา ‘เสียงดังในหู’ เสี่ยงประสาทหูเสื่อม-ดับ

อยู่ที่เงียบได้ยินเสียงลม-จิ้งหรีด รีบเช็กปัญหา ‘เสียงดังในหู’ เสี่ยงประสาทหูเสื่อม-ดับ

เสียงดังในหู – เชื่อว่าหลายคนเคยประสบกับเหตุการณ์ ‘เสียงวิ้ง’ ในหู ทั้งที่อยู่ในสถานที่เงียบ ซึ่งก็ปล่อยผ่านไปเพราะเข้าใจว่าไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง อย่างไรก็ดี “หู” เป็นอีกหนึ่งอวัยวะสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยในเรื่องการได้ยินแล้วยังมีผลกับการทรงตัวอีกด้วย

นพ.ดาวิน เยาวพลกุล แพทย์ด้าน หู คอ จมูก ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ Happy&Healthy ช่วง Health Talk โรงพยาบาลวิภาวดี เกี่ยวกับเรื่อง “เสียงในหูและหูดับ” ไว้อย่างน่าสนใจว่า

เมื่อใดก็ตามที่หูข้างใดข้างหนึ่งผิดปกติ ก็จะส่งผลต่อร่างกาย เช่น มีอาการหูอื้อ เวียนศีรษะ หรือไม่สามารถทรงตัวได้ เมื่อเคลื่อนไหวก็จะเกิดอาการโคลงเคลง ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ หูจึงมีความสำคัญมากกับมนุษย์

“การได้ยินเสียงดังอยู่ข้างใน” โดยทั่วไปจะหมายถึงโรคที่หูเราได้ยินเสียงดังผิดปกติ ซึ่งเป็นเสียงที่ไม่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อม เสียงนั้นอาจจะมีอยู่จริง หรือไม่มีอยู่จริงก็ได้ สาเหตุมีทั้งโรคที่เกิดจากหูโดยตรง และโรคที่ไม่ได้เกิดจากหู ยกตัวอย่างเช่น ยาบางชนิด หรือภาวะไทรอยด์เป็นพิษก็ทำให้ได้ยินเสียง เหมือนมีเสียงดังในหูได้ หรืออาจจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับหูโดยตรง เช่น มีการหดเกร็งของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวกับหู มีความผิดปกติของเส้นเลือดในบริเวณที่อยู่ใกล้ๆ กับหู หรือในสมอง หรืออาจจะเกี่ยวกับเรื่องเนื้องอกที่ช่องหูหรือในสมอง โรคเวียนศีรษะ น้ำในหูไม่เท่ากัน

Advertisement

หรือที่เราพบบ่อยที่สุดก็คือ “โรคประสาทหูเสื่อม” ทำให้เราได้ยินเสียงดังผิดปกติในหูเหมือนกัน

เสียงดังในหูที่ดังผิดปกติที่อาจจะได้ยินเป็นเสียงลักษณะเสียงลม เสียงเครื่องจักร เสียงจิ้งหรีดร้องหรือว่าคล้ายๆ เสียงกลอง เป็นจังหวะ หรือเสียงฟู่ๆ เหมือนจังหวะหัวใจเต้น ก็เป็นไปได้หมด ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติว่าคือตรงไหน หากไม่แน่ใจ แนะนำให้มาตรวจ พบแพทย์เชี่ยวชาญทางด้านคอ หู จมูก ทุกราย เพื่อจะได้แยกหาสาเหตุที่สามารถรักษาได้ โรคบางอย่างทิ้งไว้ก็อันตราย

ส่วนสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือมักจะมาจาก “ประสาทหูเสื่อม” มาได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเสื่อมตามวัย อายุที่มากขึ้น หรือว่าได้รับเสียงที่ดังมาเป็นเวลานาน ทำให้ประสาทหูเสื่อม หรือเกิดจากโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถ้าเกิดจากประสาทหูเสื่อม ก็จะรักษาไม่ได้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่เกิดตามหลังประสาทหูเสื่อม ก็อาจจะดังอยู่แบบนั้น รักษาไม่หาย แต่ถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องกับโรคอื่นๆ เช่น เนื้องอก ความผิดปกติของเส้นเลือด ถ้าเรารักษาที่สาเหตุ ก็จะทำให้เสียงดังจากหูหายไปได้

Advertisement

ขณะที่ “โรคหูดับ” หมายถึงการสูญเสียการได้ยินแบบทันทีทันใด หรือ เฉียบพลัน โดยทั่วไปไม่เกิน 3 วัน จากที่หูได้ยินชัดเจน อยู่ๆ ก็ได้ยินน้อยลงไปทันที หรือแทบไม่ได้ยินเลย อย่างนี้เรียกกว่ากลุ่มอาการของโรคหูดับ ซึ่งโรคหูดับก็มีสาเหตุหลายอย่างเช่นกัน อาจจะเกี่ยวกับโรคของหูโดยตรง หรืออาจจะไม่เกี่ยวกับโรคของหูก็ได้ หรือโรคของหูก็มีทั้งการติดเชื้อไวรัส ความผิดปกติของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนของหูชั้นใน หรือในสมอง หรือเนื้องอก ก็จะเป็นประสาทหูเสื่อมอย่างเฉียบพลัน การรักษานั้นต้องดูที่สาเหตุว่าเกิดจากอะไร โดยทั่วไปแนะนำผู้มีปัญหาเรื่องหูดับให้รีบพบแพทย์ เพราะยิ่งพบแพทย์เร็วก็ยิ่งมีโอกาสที่จะหายมากขึ้น โรคบางอย่างที่มีการอักเสบแล้ว ถ้ามาพบแพทย์ช้า ได้รับการรักษาช้า โอกาสฟื้นก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ

เช็กอาการ-ปัจจัยเสี่ยงประสาทหูใกล้เสื่อม

นพ.ดาวิน ระบุว่า อาการที่ทำให้เรารู้ว่าประสาทหูใกล้จะเสื่อมคือ โดยทั่วไปหลังจากที่เราได้ยินเสียงดังๆ มา หูเราจะอื้อไปสักพักหนึ่ง อย่างเวลาไปคอนเสิร์ต หรืออยู่ในที่เสียงดังๆ นั่นแหละคืออาการเตือนว่าเราเริ่มประสาทหูเสื่อมแล้ว โดยทั่วไปเมื่อเราอายุมากขึ้น ประสาทหูก็จะเสื่อมตามวัย แต่ประสาทหูเสื่อมมีทั้งกรรมพันธุ์ และสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมก็คืออยู่ในที่เสียงดังๆ อย่างเสียงระเบิดเป็นต้น เสียงดังมากๆ เพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้ประสาทหูเสื่อมได้เลย หรือเสียงดังไม่มากเท่าไหร่ แต่อยู่เป็นเวลานานๆ ก็ทำให้ประสาทหูเสื่อมได้เหมือนกัน เช่น อยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีเครื่องจักรที่เสียงดัง ที่สนามบิน มีเสียงดัง ทำงานอยู่หลายชั่วโมง ก็สามารถประสาทหูเสื่อมได้เช่นกัน และในปัจจุบันที่พบเจอได้บ่อยๆ เลยคือ ใส่หูฟัง ฟังเพลงเสียงดังๆ และดังนานๆ ฟังไปแล้วก็นอนหลับไปด้วย ก็ทำให้ประสาทหูเสื่อมได้เช่นกัน

“เสียงในหู” ส่วนใหญ่จะเกิดจากประสาทหูเสื่อม ซึ่งเสียงดังในหูเป็นผลลัพธ์ของประสาทหูเสื่อม ทำให้เราได้ยินเสียงดังผิดปกติในหู ซึ่งเสียงไม่มีอยู่จริง เพราะฉะนั้นก็ไม่ก่อให้เกิดอันตราย และก็ไม่ได้แปลว่าจะมีโรคอะไรซ่อนอยู่ ไม่ต้องกังวล ก่อให้เกิดความรำคาญอย่างเดียว

“น้ำในหูไม่เท่ากัน” ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเสียงดังในหู เนื่องจากในหูชั้นในของเราประกอบไปด้วยน้ำ เป็นน้ำอยู่ข้างใน โรคน้ำในหูไม่เท่ากันก็คือ มีความผิดปกติของสมดุลของน้ำในหู มากเกินไป อาการส่วนใหญ่ก็จะมาด้วยอาการเวียนศีรษะเป็นหลัก การได้ยินลดลง รวมถึงมีเสียงดังในหูด้วย ซึ่งต้องมีอาการเวียนศีรษะ ถ้าเกิดคนทั่วไปที่มีเสียงดังในหูอาจจะไม่ใช่โรคนี้ โรคน้ำในหูมักจะเป็นซ้ำ เป็นๆ หายๆ มีช่วงสงบ มีช่วงเป็นเยอะ แต่จริงๆ แล้วโรคน้ำในหูไม่เท่ากันเป็นโรคที่เจอไม่บ่อยนัก เมื่อเทียบกับโรคเวียนหัวอื่นๆ แต่ก็เจอบ้าง โดยทั่วไปพวกนี้สัมพันธ์กับความเครียดก็กระตุ้นให้มีอาการนี้ได้ การกินอาหารที่เค็ม ก็จะทำให้คนไข้ที่เป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันกำเริบขึ้นมาได้ ต้องกินยา และดูแลตัวเองในเรื่องของการกินอาหาร

อย่างไรก็ตาม คนไข้ที่มารักษาส่วนใหญ่จะเป็นโรคเกี่ยวกับหูชั้นนอก เช่น ขี้หู หูอักเสบบ้าง แคะหู ว่ายน้ำ ดังนั้น เพื่อสุขภาพหูที่ดีที่สุดก็คือป้องกันไม่ให้มีโรค ควรจะหลีกเลี่ยงในการอยู่ในที่เสียงดัง โดยเฉพาะเป็นเวลานานๆ แต่ถ้าจำเป็นจะต้องอยู่จริงๆ เพราะต้องทำงานหรืออะไรต่างๆ ควรหาวิธีป้องกัน เช่น ใส่ที่ครอบหู Earplug เพื่อลดเสียง ส่วนการฟังเพลงจากหูฟังก็ฟังได้ ถ้าไม่ฟังดังจนเกินไป อยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีปัญหา ถ้าดังเกินไปก็จะทำให้เกิดประสาทหูเสื่อมได้

ที่มา : มีเสียงดังในหูและหูดับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image