สุขภาพที่ดีเริ่มต้นที่ ‘ระบบเผาผลาญ’

สุขภาพที่ดีเริ่มต้นที่ ‘ระบบเผาผลาญ’

เริ่มต้นปีด้วยการดูแลสุขภาพ “การ์มิน” ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์จีพีเอสสมาร์ทวอทช์ระดับโลก เผยข้อมูลด้านสุขภาพปี 2564 ระบุคนไทยมีอัตราการเผาผลาญเฉลี่ยขณะพักอยู่ในอันดับรั้งท้าย

จึงเดินหน้าสานต่อ “เฮลท์ แคมเปญ” จับมือ พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ หมอผิง ร่วมปลุกกระแสเฮลธ์ตี้ ด้วย 8 เทคโนโลยีด้านสุขภาพในสมาร์ทวอทช์จากการ์มินตัวช่วยเฝ้าระวังความผิดปกติแบบต่อเนื่อง พร้อมชูไฮไลต์ฟีเจอร์ติดตามการออกกำลังกาย ตัวช่วยสร้างนิสัยดูแลสุขภาพ ให้คนไทยก้าวข้ามทุกข้อจำกัดของการออกกำลังกาย ตอกย้ำการสร้างค่านิยมดูแลสุขภาพและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พร้อมส่งต่อ เทรนด์การใช้ชีวิตแบบ “แอ๊กทีฟไลฟ์สไตล์” ในกลุ่มคนไทยทุกเพศทุกวัย

มร.สกาย เชน ผู้อำนวยการ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า จากรายงานข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้งานการ์มิน ชาวเอเชียในปี 2564 พบว่า คนไทยมีอัตราการเผาผลาญขณะพัก เฉลี่ยอยู่อันดับสุดท้ายเมื่อเทียบกับ 12 ประเทศในเอเชีย และมีระดับความเข้มข้นเฉลี่ยในการออกกำลังกาย ต่อสัปดาห์เป็นที่ 2 จากสุดท้าย

Advertisement

นอกจากนี้ รายงานยังระบุถึงอัตราเผาผลาญแคลอรีขณะพัก ของผู้ใช้การ์มินที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไปลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ผู้ใช้กลุ่มนี้มีการออกกำลังกายมากกว่าเมื่อเทียบกับข้อมูลของกลุ่มคนหนุ่มสาว ซึ่งชี้ให้เห็นได้ว่าผู้ใช้งานจะใส่ใจสุขภาพมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น และให้ความสำคัญกับการมีไลฟ์สไตล์ที่แอ๊กทีฟ

“เพราะกลุ่มคนหนุ่มสาวมักจะมีข้ออ้างเสมอเมื่อถึงเวลาที่ต้องออกกำลังกาย แต่หากถามว่าทุกคนอยากเป็นเจ้าของสุขภาพที่ดีไหม คงต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ใช่’ และเมื่อทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหน คือ การครอบครองสุขภาพที่ดี จึงเป็นที่มาของการสานต่อ ‘เฮลธ์ แคมเปญ’ ด้วยความตั้งใจในการนำเสนอวิถีการดูแลสุขภาพในแบบฉบับ ‘สุขภาพคือสิ่งที่คุณเลือกได้’ (Health is a choice) ผ่านการใช้ 8 เทคโนโลยีด้านสุขภาพในสมาร์ทวอทช์ของการ์มินเพื่อติดตามสุขภาพแบบต่อเนื่อง นอกจากนี้ เรายังพบว่าในขณะที่สภาพร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน แต่สิ่งเดียวที่เหมือนกัน คืออัตราการเผาผลาญของเรามีแนวโน้มที่จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น หากต้องการรักษารูปร่างหรือใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี ระบบเผาผลาญ คือ หนึ่งในกุญแจสำคัญเพื่อให้คุณได้ครอบครองการมีสุขภาพที่ดี” มร. สกายกล่าวเสริม

Advertisement

พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล แพทย์วุฒิบัตรเวชศาสตร์ชะลอวัย (สหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า ระบบเผาผลาญ หรือเมแทบอลิซึม คือ หนึ่งในกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี ซึ่งระบบเผาผลาญนี้ คือ กระบวนการที่ร่างกายนำอาหารที่รับประทานเข้าไป เปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อใช้ดำรงชีวิต และทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ

และถึงแม้ว่าร่างกายของทุกคนจะมีความแตกต่างกัน แต่เมื่อมีอายุที่มากขึ้น ร่างกายของคนส่วนใหญ่จะมีมวลกล้ามเนื้อที่ลดลง ผนวกกับฮอร์โมนที่สำคัญต่อร่างกายที่ลดลง อย่างโกรทฮอร์โมน ส่งผลให้ระบบเผาผลาญของเราจะทำงานได้น้อยลง ซึ่งสามารถส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น จนเกิดเป็นภาวะอ้วนลงพุง อีกทั้งยังทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ อาทิ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ ฯลฯ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมระบบเผาผลาญถึงสำคัญ

“การดูแลรักษาและช่วยชะลออัตราการเผาผลาญที่ลดลง สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มอัตราการเคลื่อนไหวระหว่างวันให้มากขึ้น การพักผ่อนให้เพียงพอ การดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน การกำหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสม การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

เพราะนอกจากที่การออกกำลังกายจะช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญแล้ว การออกกำลังกายยังไปกระตุ้นให้เกิดการทำงานของระบบเผาผลาญส่วนที่มาจากการออกกำลังกายอีกด้วย

โดยการออกกำลังกายที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ การออกกำลังกายแบบคาดิโอ เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน การกระโดดเชือก เป็นอย่างน้อย 150-300 นาทีต่อสัปดาห์ และการออกกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ เช่น บอดี้เวต ฟรีเวต โยคะ เป็นอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์”

พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ หมอผิง

เริ่มต้นการดูแลสุขภาพและเอาชนะใจตัวเองตั้งแต่วันนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image