วิธีใส่คอนแทคเลนส์ ให้ไม่ติดเชื้อ เช็กอาการห้ามใส่เสี่ยงตาบอด

วิธีใส่คอนแทคเลนส์
วิธีใส่คอนแทคเลนส์

วิธีใส่คอนแทคเลนส์ ให้ไม่ติดเชื้อ เช็กอาการห้ามใส่เสี่ยงตาบอด

วิธีใส่คอนแทคเลนส์ ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบค่าสายตา และแบบแฟชั่นที่มีลวดลายใช้ในการเสริมความงามเป็นหลัก

ทั้งนี้ ดวงตา เป็นอีกหนึ่งอวัยวะสำคัญที่มีผลต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ มีความอ่อนไหว และเปราะบาง จึงไม่ควรละเลยเรื่องของความปลอดภัยและความสะอาด

ซึ่งก็มีกรณีเป็นข่าวให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เช่น สาวลืมถอดคอนแทคเลนส์นอน ล้างมือไม่สะอาดตาหวิดบอดคอนแทคเลน์ติดเชื้อ เป็นต้น

อ่านข่าว : สาวเตือน!! ตาเป็นหนองหวิดบอด คอนแทคเลนส์ติดเชื้อเพราะล้างมือไม่สะอาด

Advertisement
วิธีใส่คอนแทคเลนส์
วิธีใส่คอนแทคเลนส์

ศ.พญ.พนิดา โกสียรักษ์วงศ์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เผยแพร่บทความ “อะแคนทะมีบา… เสี่ยงตาบอด” ในเว็บไซต์โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับการใส่คอนแทคเลนส์ไว้ตอนหนึ่งว่า

แม้วัยรุ่นจะนิยมใส่คอนแทคเลนส์ เพื่อความสวยงามของดวงตาหรือเพื่อความคล่องตัวในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ถ้าไม่ดูแลรักษาคอนแทคเลนส์ให้ดี อาจถึงกับตาบอดได้ จากสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่มองไม่เห็นอย่าง “อะแคนทะมีบา” ซึ่งเข้ามารุกรานและทำอันตรายต่อดวงตาได้

รู้จักอะแคนทะมีบา
อะแคนทะมีบา เป็นโปรโตซัวแบบเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ในน้ำและดิน มีช่วงชีวิต 2 แบบ คือ
1. ”ซีสต์” มีขนาด 10 – 25 ไมครอน เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม มันจะฝังตัวอยู่นิ่ง ๆ
2. ”โทรโฟซอยต์” เป็นช่วงที่เปลี่ยนรูปร่างจาก ”ซีสต์” มีขนาดใหญ่ 15 – 45 ไมครอน สามารถเคลื่อนไหวและมีฤทธิ์ทำลายดวงตา

Advertisement

อย่างไรก็ตาม เชื้ออะแคนทะมีบาทั้ง 2 แบบ สามารถทนทานอยู่ได้นานในสิ่งแวดล้อมทุกรูปแบบ เช่น หนาวจัด ร้อนจัด แห้งแล้ง ขาดอาหาร และในสระว่ายน้ำที่ใส่คลอรีน หรือแม้แต่บ่อน้ำร้อน

เกี่ยวข้องกับผู้ใส่คอนแทคเลนส์
ส่วนใหญ่ร้อยละ70 ในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ พบว่ามีกระจกตาอักเสบ เนื่องจากติดเชื้ออะแคนทะมีบาก่อให้เกิดอาการ ดังนี้ ปวดตามาก สู้แสงไม่ได้ กระจกตาขุ่น ฝ้า เป็นแผลอักเสบที่กระจกตา ในบางรายดูคล้ายอักเสบเหมือนติดเชื้อไวรัสเริม

การรักษา
เนื่องจากเชื้ออะแคนทะมีบา เป็นสาเหตุสำคัญของอาการกระจกตาอักเสบ และยังส่งผลให้เกิดแผลที่ดวงตา ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ มีความอดทนต่อยาที่ใช้รักษาทุกชนิดทำให้ต้องหยอดยาเป็นเวลานาน และในบางรายอาจไม่ตอบสนองต่อยา เป็นผลให้เชื้ออาจลุกลามไปทั่วทั้งกระจกตา จนเกิดอาการอักเสบทั้งลูกตาได้

การรักษา ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด โดยทั่วไปจะต้องหยอดตาด้วยยาฆ่าเชื้อนี้โดยเฉพาะ ซึ่งต้องผสมจากน้ำยาบางชนิดที่ไม่มีขายในท้องตลาด และต้องหยอดตาบ่อย ๆ เป็นเวลานานหลายเดือนหรืออาจเป็นปี พร้อมเฝ้าติดตามดูอาการเป็นระยะ ๆ นานหลายปี เนื่องจากเชื้ออะแคนทะมีบาสามารถมีชีวิตอยู่ในรูปแบบของซีสต์ได้นานหลายสิบปี ถ้ามีอาการอักเสบมาก จักษุแพทย์จะทำการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาให้ แต่ก็สามารถกลับมามีเชื้อชนิดนี้ได้อีก จึงต้องเฝ้าติดตามดูอาการเป็นเวลานาน

และในบางรายอาจมีอาการหนักถึงขั้นที่ต้องได้รับการผ่าตัดเอาลูกตาออกในที่สุด แม้ว่าจะผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาแล้วก็ตาม ก็อาจกลับมามีเชื้อชนิดนี้ได้อีกเมื่อร่างกายอ่อนแอหรือมีเชื้อโรคที่เป็นอาหารชั้นดีของเชื้ออะแคนทะมีบา ก็จะทำให้ดวงตาอักเสบทันที

วิธีใส่คอนแทคเลนส์
วิธีใส่คอนแทคเลนส์

วิธีใส่คอนแทคเลนส์ ทำอย่างไรไม่ติดเชื้อ
1. ล้างมือทำความสะอาดโดยการฟอกสบู่หลายๆ ครั้ง ก่อนหยิบจับคอนแทคเลนส์
2. น้ำยาทำความสะอาดล้างเลนส์ ควรใช้ให้หมดภายใน 1 เดือน ไม่เก่าเก็บเกิน 2 เดือนหลังจากเปิดใช้แล้ว
3. ขัดถูล้างเลนส์ทั้ง 2 ด้านเป็นเวลาพอสมควร ตลอดจนล้างขัดถูตลับแช่เลนส์ให้สะอาดทุกครั้งก่อนใส่น้ำยาแช่เลนส์ที่เปลี่ยนใหม่ทุกวัน เพราะโรคนี้มักพบในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มบ่อยกว่าชนิดแข็ง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ล้างทำความสะอาดเลนส์ทุกวันหรือใส่นอน ไม่ควรใช้น้ำประปาล้างเลนส์หรือตลับแช่เลนส์
4. ควรนำตลับแช่เลนส์อบไมโครเวฟทุกสัปดาห์ และเปลี่ยนตลับใหม่ทุกเดือน เนื่องจากเชื้อโรคนี้อยู่ทนทาน

เมื่อมีอาการหรือพฤติกรรมต่อไปนี้…อย่าใส่คอนแทคเลนส์
1. เปลือกตาอักเสบ
2. ตาแห้ง
3. เป็นโรคภูมิแพ้
4. ไม่มีเวลาดูแลล้างทำความสะอาดคอนแทคเลนส์

ดังนั้น ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์แล้ว หากปฏิบัติตัวไม่ถูกวิธี มีสิทธิ์ติดเชื้อจนตาบอดได้ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่ตามแฟชั่น ยิ่งต้องควรระมัดระวังมากกว่าปกติ เพราะหากดูแลดวงตาและรักษาคอนแทคเลนส์ไม่ถูกวิธี อาจมีเชื้อโรคเข้าสู่ดวงตาได้ง่าย หรือแค่ฝุ่นละอองปลิวเข้าตา ก็อาจพาเชื้อโรคเข้าไปได้ด้วยเหมือนกัน สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาทำความสะอาดล้างเลนส์ ขอแนะนำให้ใส่ชนิดรายวันแล้วทิ้ง หรือเปลี่ยนเป็นใส่แว่นตาจะปลอดภัยกว่า

ฉะนั้นก่อนตัดสินใจใส่คอนแทคเลนส์ควรปรึกษาจักษุแพทย์ เพื่อตรวจประเมินหาความผิดปกติหรือความเสี่ยง ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ละเลยได้ และในกรณีที่คอนแทคเลนส์หล่นลงพื้นหรือตากอากาศจนแห้งแข็ง ไม่ควรนำมาใช้อีก แม้จะยังไม่หมดอายุการใช้งาน เนื่องจากเสี่ยงกับการติดเชื้อ ดีต่อสุขภาพตาแน่นอน ถ้าทำได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image