ปวดศีรษะแบบไหน ควรรีบมาตรวจพบแพทย์!!

ปวดศีรษะแบบไหน ควรรีบมาตรวจพบแพทย์!!

เอ็มอาร์ (MR) เป็นเทคนิคการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ใช้ตรวจคัดกรองวินิจฉัยโรค มีความถูกต้อง แม่นยำสูง สามารถตรวจได้ทุกระบบของร่างกายอย่างละเอียด ที่สำคัญไม่มีอันตรายจากรังสี นิยมใช้เป็นเครื่องมือลำดับแรกๆในการตรวจหาความผิดปกติของสมอง เพราะสามารถสร้างภาพได้หลายระนาบ และตรวจพบความผิดปกติได้ชัดเจน  ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยหาสาเหตุได้รวดเร็วแม่นยำ

พญ.อนงนุช ชวลิตธำรง แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)  เผยข้อมูลว่า ปัจจุบันมีผู้รักสุขภาพใช้เครื่อง MR ในการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยในการเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้น โดยที่ยังไม่ต้องรอให้แสดงอาการเจ็บป่วย เนื่องจากการตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่ยังไม่แสดงอาการ ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาได้มากขึ้น

ในการวินิจฉัยโรคทางสมอง เช่น โรคสมองขาดเลือดเฉียบพลัน (Stroke) โรคเนื้องอกในสมอง แพทย์อาจพิจารณาตรวจ MRI ควบคู่กันไป โดย MRI สามารถตรวจดูความผิดปกติที่เนื้อเยื่อสมอง และก้อนเนื้อต่างๆได้ ส่วน MRA ใช้ตรวจดูความผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง

นอกจากการตรวจสุขภาพประจำปีแล้ว ผู้ที่เข้าเกณฑ์เหล่านี้ข้อใดข้อหนึ่ง ควรได้รับการวินิจฉัยด้วยการตรวจ MR เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน ได้แก่

Advertisement

  -ปวดศีรษะรุนแรงมากที่สุดในชีวิต

  -ปวดฉับพลันทันที ปวดศีรษะมากจนต้องตื่นกลางดึก

 -ปวดศีรษะข้างเดิมตลอด

Advertisement

  -ปวดศีรษะจนต้องใช้ยาแก้ปวด ปริมาณมากหรือบ่อย

  -ปวดศีรษะมากขึ้นเมื่อไอ จาม เบ่งออกแรง เปลี่ยนท่าทาง

  -ปวดศีรษะร่วมกับอาการผิดปกติอย่างอื่น เช่น ไข้ เห็นภาพซ้อน หลงลืม พูดลิ้นแข็ง ปากเบี้ยว ชาอ่อนแรง เดินเซ ชัก สับสน เป็นต้น

  -ผู้ป่วยอายุมากกว่า 50 ปี ที่มีอาการปวดศีรษะครั้งแรก หรือเปลี่ยนไปจากเดิม

  -ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น การติดเชื้อเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ตัวเอง (SLE)

  ความผิดปกติที่เกิดขึ้น ยิ่งตรวจพบเร็ว จะช่วยป้องกันและรักษาได้ดีกว่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image