คลำเจอก้อนเนื้อแถวลำคอ-ใต้รักแร้ แค่ต่อมน้ำเหลืองโต หรือสัญญาณมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

คลำเจอก้อนเนื้อแถวลำคอ-ใต้รักแร้ แค่ต่อมน้ำเหลืองโต หรือสัญญาณมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

เรียนรู้ ทำงาน และใช้ชีวิตแต่ละวันหมดไปอย่างรวดเร็ว อาจไม่ได้ดูแลตัวเอง หรือไปเจอสถานการณ์บางอย่างไม่สู้ดีต่อร่างกาย

จนวันหนึ่งเผลอคลำเจอก้อนเนื้อที่ลำคอ ใต้รักแร้ หรือตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ลองลูบคลำ ลองกด เอ๊ะ! ทำไมเจ็บจัง

มาสังเกตก้อนเนื้อโตผ่านสาระน่ารู้เรื่อง “ทำความรู้จักกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง” โดย ผศ.พญ.พรรณี ประดิษฐ์สุขถาวร หัวหน้าหน่วยอายุรศาสตร์โลหิตวิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง คือ เนื้องอกของต่อมน้ำเหลือง ซึ่งภายในต่อมน้ำเหลืองมีเม็ดเลือดขาว ที่เป็นภูมิคุ้มกันของร่างกาย เกิดความผิดปกติบางอย่างที่ทำให้เม็ดเลือดขาวเจริญเติบโตเร็ว โตไม่หยุด ต่อมน้ำเหลืองเป็นอวัยวะภูมิคุ้มกันอย่างหนึ่ง ซึ่งช่วยป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อ และสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ

Advertisement

 

รู้จักกับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

Advertisement

Q : ต่อมน้ำเหลืองอยู่บริเวณใดบ้างของร่างกาย?

A : ต่อมน้ำเหลืองมีอยู่ทั่วร่างกาย เป็นจำนวนหลายร้อยต่อมทั่วร่างกายทุกอวัยวะ ปกติต่อมน้ำเหลืองจะมีขนาดเล็กอาจจะมีขนาดไม่ถึงเซนติเมตร เพราะฉะนั้นเราจะคลำไม่เจอ และจะไม่รู้ว่าต่อมน้ำเหลืองอยู่จุดใดบ้าง แต่ถ้าต่อมน้ำเหลืองโตขึ้น ก็มักจะคลำพบได้ในตำแหน่งบริเวณที่ตื้น ๆ เช่น ข้างคอ กกหู ตรงบริเวณไหปลาร้า รักแร้ บางคนที่คลำพบบริเวณเต้านม และอีกจุดหนึ่งที่พบคือบริเวณขาหนีบ

Q : มะเร็งต่อมน้ำเหลืองส่วนมากจะพบบริเวณอวัยวะใดบ้าง?

A : เกิดได้กับทุกอวัยวะ แต่ต่อมน้ำเหลืองโตไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเสมอไป  ต่อมน้ำเหลืองมีหน้าที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค ตัวอย่างเช่นกรณีฟันผุ จะมีต่อมน้ำเหลืองโตขึ้นบริเวณคอ ต่อมน้ำเหลืองส่วนนี้โตขึ้นตามกลไกลของร่างกาย ซึ่งได้เพิ่มเม็ดเลือดขาวมากำจัดเชื้อโรคบริเวณนั้น ๆ อย่างเช่น ฟันผุก็กำจัดเชื้อโรคที่ฟัน เจ็บคอเป็นหวัดก็อาจจะมากำจัดเชื้อโรคที่เข้าไปในลำคอ บริเวณลำคอก็จะโตขึ้นตามตำแหน่งของการติดเชื้อของร่าง อาการเหล่านี้อาจจะหายไปในระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์

สิ่งที่แพทย์จะบอกว่าอาการต่อมน้ำเลืองผิดปกติ ก็คือ ถ้าต่อมน้ำเหลืองโต โดยไม่มีสาเหตุอื่น ๆ และโตอยู่นานอาจจะเป็นระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ หรือนานเป็นหลักเดือนขึ้นไปก็อาจจะต้องสงสัยว่าเกิดจากอะไรหรือเป็นโรคอะไรต่อไป ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหารอยโรค ซึ่งอาจพบว่าเป็นโรคมะเร็งก็พอจะแยกได้ว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือเป็นโรคมะเร็งที่มาจากอวัยวะอื่นที่กระจายมาที่ต่อมน้ำเหลือง

Q : จะรู้ได้อย่างไรว่ามันคือมะเร็งชนิดใด?

A : ต้องมาพบแพทย์ ทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือดทั่ว ๆ ไป อาจจะมีการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นจะต้องมีการตัดชิ้นเนื้อจากต่อมน้ำเหลืองที่โตขึ้น เพื่อนำมาดูใต้กล้องจุลทัศน์ว่าชิ้นเนื้อที่โตขึ้นนี้เป็นเซลล์ข้างในเป็นเซลล์ชนิดใด เป็นเซลล์ของต่อมน้ำเหลือง หรือเป็นเซลล์ของมะเร็งอย่างอื่น หรือมีการติดเชื้อ ตัวอย่างเช่นวัณโรคก็ทำให้ต่อมน้ำเหลืองโตได้เช่นกัน

Q : มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ?

A : ในทางการแพทย์ยังไม่สามารถบอกได้ชัด แต่โดยทั่วไปเป็นที่เข้าใจกันว่าเกิดจากการกลายพันธุ์ของเซลล์เม็ดเลือด ซึ่งทำให้เม็ดเลือดโตไม่หยุด แล้วก็ไม่ตายไป ซึ่งการกลายพันธุ์ในที่นี้เรายังบอกได้ไม่ชัดว่าเกิดเพราะอะไรกันแน่ แต่มีปัจจัยที่ทำให้เพิ่มโอกาสเสี่ยง เช่น คนที่มีอายุมากขึ้น เซลล์เม็ดเลือดมีการแบ่งตัวตลอดเวลา ความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองก็เสี่ยงมากขึ้นตามอายุ และกลุ่มคนที่เคยได้รับสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง ยาย้อมผม ก็เป็นสารเคมีที่เพิ่มความเสี่ยง และคนที่ได้รับการฉายแสง อาจจะป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ได้รับยาเคมี หรือได้รับการฉายแสงอื่นก็จะเพิ่มความเสี่ยงเช่นกัน

นอกจากนั้นก็จะมีเรื่องระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ปกติภูมิคุ้มกันของเราสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้ส่วนหนึ่งถ้าภูมิคุ้มกันต่ำ อย่างเช่นเป็นโรค HIV หรือเป็นภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง หรือเป็นคนที่ได้ร้บการปลูกถ่ายอวัยวะมา ต้องกินยากดภูมิ ก็จะทำให้มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้มากขึ้น

นอกจากนั้นก็จะมีเชื้อไวรัสบางตัวที่ไปกระตุ้นการเกิดมะเร็ง เช่น ไวรัสตับอักเสบซี (hepatitis C), H.pyroli ในกระเพาะอาหาร

Q : มะเร็งต่อมน้ำเหลืองถือว่าอันตรายไหม?

A : ก็มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นชนิดมะเร็งที่มีผลตอบสนองต่อการรักษาเป็นอย่างมาก หากผู้ป่วยรู้ตัวแล้วเข้ารับการรักษาได้ทันทวงที มีโอกาสหายขาดได้มากกว่า 50% ปัจจุบันอาจจะถึง 60% – 70%

 

แนวทางการรักษา

หลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าชิ้นเนื้อเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจริง ก็จะมีการประเมินระยะของโรคโดยการทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ดูว่ามีมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่จุดไหนบ้าง และการเจาะไขกระดูกเนื่องจากในไขกระดูมีการผลิตเม็ดเลือดต่าง ๆ กลไกก็จะดูว่าเหมือนในโรงงานมีการผลิตเป็นอย่างไรมีเซลล์ผิดปกติเข้าไปหรือไม่

 

การแบ่งระยะของโรค

ถ้ามีก้อนเดียวก็จะถือเป็นระยะที่1 ถ้ามีมากว่า 1 ตำแหน่ง ตัวอย่างต่อมน้ำเหลือง 2 ก้อน โดยเกณฑ์จะตัดที่กำบังลม ถ้าอยู่ที่ช่วงบนอย่างเดียว หรือช่วงล่างอย่างเดียวก็จะถือว่าเป็นระยะที่ 2 แต่ถ้าข้ามกำบังลม คือมีทั้งช่องอก และช่องท้องถือเป็นระยะที่ 3 แต่ถ้ามีเข้าไปถึงไขกระดูก ตับ ปอด เป็นอวัยวะนอกต่อมน้ำเหลือง คือเป็นระยะที่ 4

 

ระยะไหนสามารถรักษาให้หายขาดได้

ตามที่เราเข้าใจกันระยะต้น ๆ ก็จะมีผลต่อการรักษาได้ดีกว่า ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง แต่ถึงแม้จะเป็นระยะที่ 4 ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองก็มีโอกาสหายขาดได้สูงมากกว่า 50% เราก็ต้องมาดูว่าเป็นชนิดใดของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เพราะระยะมะเร็งต่อมน้ำเหลืองก็ยังแบ่งย่อยอีกหลายชนิด มันจะมียารักษาจำเพาะชนิด ซึ่งผลตอบสนองก็มากกว่า 80% ในส่วนของยา

นอกจากนั้่นก็จะมีการฉายแสงรังสีรักษาในก้อนที่ใหญ่ ในบางกรณียาเคมีอาจจะเข้าไปทำลายได้ไม่หมด อาจจะต้องใช้การฉายแสงเข้าไปช่วยยกำจัดที่เซลล์เฉพาะที่การรักษาอื่น ๆ ก็อาจจะเป็นการรักษาโดยการปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งก็มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์

“…มะเร็งถึงแม้ว่าใครหลาย ๆ คนได้ยินว่าเป็นโรคที่น่ากลัว แต่เราสามารถป้องกันได้ โดยการดูแลสุขภาพร่างกาย ให้แข็งแรง ถ้าร่างกายแข็งแรงก็สามารถต่อสู้กับโรคได้ …”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image