ผ่าดวงเมือง โหรดังชี้ ดาวโจรวิปริต คาด ดวงเมืองแย่ เศรษฐกิจพัง กินเวลายาวนานถึงก.พ. 64 ข้าวจะขาดแคลน เพราะคนแอบกักตุน เตือน “บิ๊กตู่” ต้องดูแลสุขภาพผู้นำประเทศมีเกณฑ์ป่วย แนะนำประชาชน ประหยัด อดทน กตัญญู
ผ่าดวงเมือง // เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายบุศรินทร์ ปัทมาคม นักโหราศาสตร์และคอลัมนิสต์ชื่อดัง เปิดเผยถึงการทำนายดวงเมือง และดวงผู้นำของประเทศไทย จากการคำนวณตัวเลขและสถิติ ตามหลักการโหราศาสตร์ ว่า ดวงเมืองของประเทศไทยนั้น เกิดในเดือนเมษายนพอดี นั่นคือ ดาวอาทิตย์อยู่กับลัคนา และเกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2325 ซึ่งนับถึงปัจจุบัน ก็เท่ากับว่า พอหลังวันเกิดปีนี้ไปแล้ว อายุของดวงเมืองจะย่าง 239 ปี ซึ่ง ขณะนี้ยังอยู่ในช่วง 238 ถ้าว่าเป็นดวงคนก็ตาม คนก็กำลังอยู่ระหว่างป่วย ที่อยู่ระหว่างป่วยเพราะดาวอายุเป็นกาลกิณีจร อายุเดิมของเมืองเป็นกาลกิณีจร เพราะฉะนั้นมีแนวโน้มว่า หลังจากวันเกิดไปแล้ว เรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วยน่าจะดีขึ้น มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น เหตุการณ์เกี่ยวกับป่วยไข้หรือบรรยากาศของการที่เราจะต้องกลัวไวรัสโควิด-19 ก็น่าจะเบาบางลงหลังจากวันเกิดของดวงเมืองไปแล้ว
“เพราะฉะนั้นกลางเดือนเมษายน บังเอิญว่าดวงเมืองเกิดหลังช่วงสงกรานต์เล็กน้อย คือ 21 เมษายน เพราะฉะนั้นหลัง 21 เมษายน เหตุการณ์เจ็บไข้ได้ป่วยก็จะดีขึ้น เพราะฉะนั้นสบายใจได้ว่าสุขภาพของบ้านเมืองก็จะดีขึ้น ความเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะน้อยลง” นายบุษรินทร์ กล่าว
นายบุศรินทร์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม จะมี “จุดเสีย” ตามมาอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องเกี่ยวกับ “พระเดช” ซึ่ง พระเดชเดิมคือดาวอังคาร ดวงเมืองเกิดวันอาทิตย์ บริวาร อายุ เดช และ เดชคืออังคาร จะกลายเป็นกาลกิณีจรหลังจากวันเกิดดวงเมือง พออายุย่างบวกหนึ่งไป จาก 238 เป็น 239 ปี
“ดาวอังคารเป็นกาลกิณีจร เพราะฉะนั้นน่าคิด น่ากลัว สำหรับการที่ บ้านเมืองจะไม่น่าเกรงขามอีกต่อไป รัฐบาลก็จะอยู่ยากขึ้น หรือไม่น่าเกรงขาม คือประชาชนที่อยากจะเดินขบวน หรืออยากจะต่อต้านรัฐบาลก็จะกล้าทำได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นก็จัดได้ว่าเป็นเรื่องของการเสียอำนาจมากกว่า หรืออำนาจจะอ่อนลง อังคารเป็นกาลกิณีจร เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมาระวังเกี่ยวกับดาวอังคาร ดาวอังคารจะเข้าทับลัคน์ดวงเมือง” นายบุศรินทร์ กล่าว
นักโหราศาสตร์ชื่อดัง กล่าวอีกว่า วันที่ 8 สิงหาคม และจะถอยกลับมาวันที่ 9 ตุลาคม เพราะฉะนั้นระหว่างวันที่ 8 สิงหาคม ถึง 9 ตุลาคม ก็จะเป็นเรื่องที่รัฐบาลน่าหนักใจ หรือการปกครองจะอ่อนแอ หรือหย่อนยานลง น่าหนักใจ หรืออีกครั้งหนึ่งก็คือวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ไปจนถึง 24 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งอังคารก็ยังเป็นกาลกิณีจรก็จะเดินย้อนกลับไปทับลัคนาอีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นมีช่วงที่น่าหนักใจและน่าต้องระวังอยู่ 2 ช่วง คือช่วง วันที่ 8 สิงหาคม 2563 ถึง 9 ตุลาคม 2563 และวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2564 เป็น 2 ช่วงนี้เท่านั้นที่น่าห่วงเกี่ยวกับเรื่องการบริหารประเทศ หรือการปกครอง
เมื่อถามว่า ดวงเมืองช่วงเวลานี้ จะมีการยุบสภาหรือรัฐประหารหรือไม่ นายบุศรินทร์ กล่าวว่า มีแนวโน้มที่จะมีทั้งสองอย่างก็ได้ โดยเฉพาะเรื่องปฏิวัติซ้อน หรือรัฐประหารอีกครั้งหนึ่งก็น่าจะเป็นได้ ระหว่างที่ดาวอังคารทับลัคน์ ระหว่าง 8 สิงหาคม ถึง 9 ตุลาคม 2563 ก็ครั้งหนึ่ง กับอีกช่วงหนึ่งคือ 27 ธันวาคม 2563 ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2564 ก็อีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นช่วงนี้เรื่องของ การปฏิวัติซ้อน มีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นไปได้สูง ประกอบกับเหตุการณ์ที่ประชาชนจะทนไม่ได้เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำซึ่งผมจะพูดต่อไป เหตุเกิดจากดาวราหูเดินเข้า วันที่ 10 กันยายน ดาวราหูจะผ่านจากราศีเมถุน เข้ามาในราศีพฤษภ ซึ่งเป็นเรือนกระเป๋าของดวงเมือง ตอนนี้ราหูจะเข้ามาล้วงทรัพย์ดวงเมือง ทำให้ประเทศชาติจนลงไปอีก เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็ลำบากยากจนอยู่แล้ว คนทั่วไปก็จะซื้อข้าวของแพง
เมื่อถามถึงผู้นำประเทศ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างไรบ้าง นายบุศรินทร์ กล่าวว่า ดวงของท่านผู้นำ อยู่ในอาการที่ค่อนข้างจะลำบาก และน่าเป็นห่วง คืองาน ทำไปแล้วมันไม่มีผลดีเท่าที่ควร มีแต่มรสุม
“ใช้คำว่าท่านเจอมรสุมอยู่เรื่อยๆ หรือเหมือนรถยนต์ที่ขับบนดินลูกรัง ก็ค่อกแค่กๆ ไม่ได้ไปเรียบเรียบเหมือนที่ควรจะเป็นหรือที่ท่านอยากจะเป็น ผมว่าท่านอยู่ด้วยความยากลำบาก และช่วงนี้ดวงท่านไม่ถูกกับดาวเสาร์ ท่านเกิด 21 มีนาคม 2497 ซึ่งช่วงนี้ ท่านน่าจะมีแนวโน้มว่าท่านน่าจะป่วย เพราะว่าจะเป็นจังหวะชีวิตที่นับไปแล้ว อยู่ตรงนี้พอดี คือ 67 ซึ่ง 67 คือ ดาวอายุของท่านเป็นกาลกิณี เพราะฉะนั้นท่านเริ่มมีโอกาสจะป่วยอยู่ในช่วงนี้ คือตอนอายุ 67 ปี ก็คือนับจากวันที 21 มีนาคม 2563 ไปจนถึง 21 มีนาคม 2563 ช่วงที่ท่านอายุ 67 ปี ท่านมีแนวโน้มว่าน่าจะป่วย และถ้าเรื่องของงานคงไปด้วยความยากลำบาก
เพราะว่าท่านมีดาวเสาร์ ซึ่งเป็นดาวพระเคราะห์ดวงใหญ่ และดาวเสาร์ของท่าน เสาร์เดิมของท่านอยู่ในเรือนมรณะของดวงท่าน เพราะฉะนั้นเวลาดาวเสาร์ขึ้นมารังแก ตอนนี้รังแกท่านในเรื่องงาน เพราะฉะนั้นงานยังไงท่านก็ไม่ราบรื่น จนกว่าวันที่ 5 ธันวาคม ดาวเสาร์ถึงจะออกจากเรือนการงานไป ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นก็คงจะได้รับการต่อต้านเยอะทีเดียว โดยเฉพาะเริ่มตั้งแต่ 8 สิงหาคม” นายบุศรินทร์ กล่าว
นายบุศรินทร์ กล่าวถึงเรื่องเศรษฐกิจภายในประเทศว่า เศรษฐกิจจะตก เศรษฐกิจตก คือ ข้าวยากหมากแพง สินค้าบางตัวที่มีความจำเป็นของประชาชนจริงๆ ก็จะหาได้ยาก ซึ่งรับรองเลยว่า ข้าวขึ้นราคาอย่างแน่นอน และต่างชาติก็ต้องมาซื้อ คงมีการลักลอบออกขายกันอย่างที่เคยมีมาแล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องลำบากยากจน
เมื่อถามว่า เศรษฐกิจจะตกลงช่วงไหน บอกช่วงเวลาได้หรือไม่ นายบุศรินทร์ กล่าวว่า จากวันที่ 10 กันยายน 2563 ตลอดไปจนถึง 15 เมษายน 2565 เป็นเวลาปีครึ่ง ที่ดาวราหูมาเข้าตรงนี้ เข้าตรงนี้คือวันที่ 10 ผ่านจุดนี้คือ 10 กันยายน เพราะฉะนั้นหลังวันที่ 10 กันยายนคือเศรษฐกิจตก สภาพเศรษฐกิจตก ก็จะบีบให้รัฐบาลอยู่ยาก หรือทำงานก็ยาก
เมื่อถามอีกว่า ที่บอกว่า ตอนนี้ มีดาวมฤตยูที่เข้ามาอยู่ในดวงเมือง มีความหมายอย่างไร นายบุศรินทร์ กล่าวว่า ดาวมฤตยู หมายถึงดาวที่เกี่ยวกับความหงุดหงิดที่นักโหราศาสตร์หลายท่านยกขึ้นมาพูดว่า บ้านเมืองวุ่นวายเพราะมฤตยูเข้าทับลัค(น) มฤตยูอยู่กับลัคนาราศีเมษ อยูรวมแล้ว 7 ปี ตอนนี้ก็ทับลุค(น)อยู่ แต่จะออกจากนี้ พ้นจากนี้ไป คือวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 2565 แต่ตามหลักไม่มีผลอะไรที่จะต้องไปกลัวมฤตยูเพียงดวงเดียว ดาวสำคัญที่สุดในการดูดวงคือดาวพระเคราะห์หลักมากกว่ามฤตยู เพราะฉะนั้นเราต้องเน้นที่ดาวพระเคราะห์หลัก เนื่องจากดาวพระเคราะห์หลักสองตัวนี้โคจรถอยหลัง หรือเรียกว่าเดินวิปริต ปกติจะเดินหน้าลูกเดียว
“เพราะฉะนั้นความสับสนอลหม่านไม่ได้เกิดจากมฤตยู แต่เกิดจากดาวพฤหัสกับดาวเสาร์ ถอยมารวมกันอยู่ตรงนี้ จึงเกิดความสับสนอลหม่านขึ้นอีกครั้งหนึ่งเหมือนเมื่อปลายปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงต้องดูจากดาวพระเคราะห์หลัก ไม่ใช่ดูจากดาวมฤตยูตัวเดียว เพราะฉะนั้นที่พูดว่า ดาวมฤตยูเป็นผลให้บ้านเมืองตกต่ำหรือวุ่นวาย อันนี่ผมยืนยันว่าไม่จริง และไม่ใช่หลักโหราศาสตร์ หลักโหราศาสตร์ก็คือ ไทม์มิง คือกาลเวลา ที่ดาวใหญ่ คือดาวโจร ถอยหลัง ตรงนี้สำคัญกว่ามฤตยูมาก”
“การที่ดวงเดินวิปริต ส่งผลทำให้บ้านเมืองระส่ำระสาย ความไม่สงบเกิดขึ้นในบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพรรคการเมือง แบ่งกันเป็นสองพรรคสองพวกเสมอ หรือภายในพรรคเองก็แตก หรือภายในรัฐบาลที่มีหลายๆ พรรคก็แตก แตกกันระหว่างพรรคไม่พอ ภายในพรรคยังแตกกันอีก ระหว่าง 12 กรกฎาคม ไปจนถึง 14 พฤศจิกายน 2563 กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ช่วงนี้ 5 เดือนเต็มๆ ที่ดาวพฤหัสกับดาวเสาร์จะถอยกลับมาและเดินหน้าอีกครั้ง ช่วงนี้คือความรำส่ำระสาย ความแตกแยกภายในรัฐบาล และบรรยากาศของสังคมบ้านเราด้วย” นายบุศรินทร์
เมื่อถามเรื่องที่ สถาบันวิจัยทางดาราศาสตร์แห่งชาติ(สดร.) เปิดเผย ว่าเดือน เมษายน จะมีดาวหางซึ่งมีคาบการโคจรเป็นพันปี จะเข้ามาใกล้โลกในเดือนเมษายน และอาจจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จะมีผลอะไรต่อดวงเมืองและโลกหรือไม่ นายบุศรินทร์ กล่าวว่า ต้องขอตัวตอบว่า ดาวหาง ไม่ใช่เรื่องของโหราศาสตร์เพราะโหราศาสตร์พูดแต่ดาวที่เดินประจำ 10 ดวงเท่านั้น ตั้งแต่อาทิตย์ไปจนถึงดาวมฤตยู ดาวหางอยู่นอกเหนือที่โหราศาสตร์จะเรียนรู้
“เพราะว่า ดาวหางนั้น นานๆจะเกิดขึ้นที โหราศาสร์ต้องเกิดขึ้นซ้ำนะครับ เป็นตามสถิติ บรรยากาศของสังคมเป็นไปตามสถิติของดาวพระเคราะห์ใหญ่ๆ ดาวพระเคราะห์หลักถึงจะบอกได้ ของผมเรียนมาโดยใช้ดาวพระเคราะห์ 10 ดวง ดาวหางต้องตอบว่าไม่อยู่ในเรื่องที่โหราศาสตร์จะตอบได้” นักโหราศาสตร์ ชื่อดัง กล่าว
เมื่อถามว่า มีคำแนะนำ ประชาชนสำหรับเรื่องดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรบ้าง นายบุศรินทร์ กล่าวว่า โดยรวมๆ ไม่ใช่เฉพาะทั่วไปทุกคน สังคมไทยขณะที่กำลังจะเจอปัญหา ทั้งปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาการเมือง ก็ควรจะใช้เงินเท่าที่พอจะหาได้ อย่าใช้เกินตัว หรือลงทุนจนเกินเหตุ ข้อสอง ต้องเตรียมตัวเกี่ยวกับราคาสินค้าที่จะแพง และความจำเป็นที่จะใช้สินค้าตัวนั้น ให้ระวังโจรผู้ร้ายให้มากขึ้นด้วย เพราะว่า เศรษฐกิจจะแย่ลง ปัญหาใหญ่ก็คือโจรผู้ร้ายจะชุกชุม
“อย่างไรก็ตาม มันขึ้นอยู่กับดวง และดวงใครดวงมัน เพราะฉะนั้นยังไง คนบางคนก็ขึ้นอยู่กับดวง บางคนรวยสวนทางกับเศรษฐกิจ เมื่อปี 2540 ที่คนไทยประสบต้มยำกุ้ง คนส่วนใหญ่ก็ล้ม แต่บางคนก็รวยสวนทางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นก็ดวงใครดวงมัน ที่สำคัญก็คือ ต้องเพิ่มความขยัน ไม่อดทนก็เพิ่มความอดทน ที่สำคัญคือต้องมี “กตัญญู” กตัญญูเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้าใครไม่มีกตัญญู ทำอย่างไรก็ไม่เจริญ และลำบากไปตลอดชีวิต ต้องเน้นที่กตัญญู ขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ และกตัญญู อันนี้คือทางรอด” โหราศาสตร์ชื่อดัง กล่าว
