สวยออร่าพุ่งกันทุกคน
สำหรับเหล่าสาวงามทั้ง 95 ประเทศ ที่เดินทางมาประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
ซึ่งเปิดฉากขึ้นแล้วอย่างน่าตื่นเต้น บรรดาสาวงามต่างดีใจที่ได้มาร่วมประกวดที่ประเทศไทย
โดยครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 ที่ประเทศไทยเป็น “เจ้าภาพ”
ปีแรก จัดขึ้นเมื่อปี 2535 มี อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ นางสาวไทย 2535 เป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวด
ถัดจากนั้นมาอีก 13 ปี ในปี 2548 ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประกวดเป็นครั้งที่ 2 ได้ ชนันภรณ์ รสจันทน์ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2548 เข้าร่วมประกวด
และอีก 13 ปีต่อมา ไทยก็ได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้งในปี 2561
จะเป็นเรื่องบังเอิญหรืออะไรก็แล้วแต่ เลข 13 ได้กลายมาเป็นเลข “ลัคกี้ นัมเบอร์” ของไทยไปแล้ว
อีกหนึ่งเลขลัคกี้นัมเบอร์ คือเลข 67 ที่ครั้งนี้ จัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นครั้งที่ 67 และการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2561 เลขท้าย 2 ตัว ออก 67
ทำเอาแฟนๆ นางงาม กรี๊ดสนั่น!! ลัคกี้ นัมเบอร์ สุดๆ
แม้การประกวดครั้งนี้จะมี “ดราม่า” เรื่องการเปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์ สมชาย ชีวสุทธานนท์ หรือ ตี๋ แมทชิ่ง หนึ่งในผู้ถือลิขสิทธิ์คนปัจจุบัน ได้ออกมาเผยว่า การทำงานค่อนข้างมีอุปสรรค โดยเฉพาะเรื่องสปอนเซอร์ เจ้าตัวถึงกับบอกว่า แม้ว่าจะต้องเป็นหนี้เกือบ 300 ล้าน ก็ยืนยันจะจัดประกวด เพราะถือเป็นการทำเพื่อประเทศไทย
ถึงวงในจะ “ระอุ” แต่ “กองเชียร์” ตั้งตาเชียร์กันมันส์หยด!!
ยิ่งปีนี้ มีไฮไลต์พิเศษหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ได้รับพระกรุณาจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ หรือ เจ้าหญิงดีไซเนอร์ ของคนไทย ได้ทรงตอบรับคำทูลเชิญของ พอลล่า เอ็ม ชูการ์ต ประธานองค์กร มิสยูนิเวิร์ส ในการร่วมทรงออกแบบชุดราตรีผ้าไหมไทยให้สาวงามสวมใส่ในค่ำคืนงาน Thai Night และชุดว่ายน้ำ สำหรับสวมใส่ประกวดบนเวที Miss Universe 2018 ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI ซึ่งนับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และนับเป็นบทบาทสำคัญอันมีความหมายอย่างยิ่งต่อเวทีการประกวดนางงามจักรวาลในฐานะประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ (่อ่านเพิ่มเติม เผยโฉมความงดงาม ‘พระองค์หญิงฯ’ ทรงออกแบบ ชุดราตรีผ้าไหม-ว่ายน้ำ มิสยูนิเวิร์ส 2018)
นับเป็นความพิเศษที่ทั่วโลกจะได้ชื่นชมความงดงามของผ้าไทยจาก “เจ้าหญิงดีไซน์เนอร์” ของไทย
อีกหนึ่งความพิเศษ ปีนี้ เป็น “ปีแรก” ที่มีสาวงามจะทั่วโลกเดินทางมาประกวดมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ถึง 95 ประเทศ โดยมี 3 ประเทศที่ร่วมประกวดเป็นครั้งแรก ได้แก่ อาร์มีเนีย, คีร์กีซสถาน, มองโกเลีย
ครั้งนี้เป็น “ครั้งแรก” ในประวัติศาสตร์โลก ที่มี “นางงามข้ามเพศ” เข้าร่วมประกวดด้วย
“อังเฆลา ปอนเซ” หญิงข้ามเพศคนแรกที่ได้รับ “มงกุฏมิสยูนิเวิร์สสเปน” วัย 27 ปี ซึ่งเธอเป็นสาวข้ามเพศที่ริเริ่มแคมเปญการรณรงค์เรื่องความเท่าเทียมทางเพศในวงการประกวดนางงามในสเปน
โดยเวทีมิสยูนิเวิร์ส ได้มีเปลี่ยนกฎเพื่อให้สาวข้ามเพศได้ประกวด ตั้งแต่ปี 2012 แต่ยังไม่เคยมีสาวข้ามเพศรายใดได้มีโอกาสก้าวเข้าสู่เวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์สระดับนานาชาติ
อีกไฮไลต์ที่แฟนนางงามรอชม เวทีประกวบรอบตัดสินแบบ “ซูเปอร์เอ็กซ์” (Super X) เวทีรูปตัวเอ็กซ์ ขนาด 40 กว่าเมตร เป็นเวทีที่ผู้ชมสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแน่นอน เพราะคำนึงถึงการมองเห็นสำหรับผู้ชมในฮอลล์และทางการถ่ายทอดสด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการประกวดที่นำรูปแบบนี้มาใช้ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
เมื่อเป็นเวทีระดับโลก บัตรเข้าชมก็ต้อง “ไม่ธรรมดา” บัตร “แพ็กเกจมงลง” ราคาสูงสุดอยู่ที่ 50,000 บาท (Tiara Package) รองลงมาคือ 35,000 / 25,000 / 18,000 / 13,500 / 10,000 / 6,500 / 4,000 / 2,500 บาท
โดยบัตรราคา 50,000 บาท (สีเหลือง) ที่มีจำนวนที่เพียง 140 ที่นั่ง และเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ขนาบทั้งสองข้างด้วยเวที และตำแหน่งอยู่ในจุดกึ่งกลางของเวที เรียกว่ามองเห็นรอบ 360 องศา มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ…ยืน 1 ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ทางเข้าพิเศษ, เลาจน์พิเศษบริการอาหารเครื่องดื่ม, ที่จอดรถพิเศษ (สำหรับบัตรทุก 2 ใบ/รถ 1 คัน), ห้องน้ำพิเศษ, สายคล้องคอพิเศษ, ของที่ระลึกพิเศษ, ถ่ายภาพที่ระลึกประกบ Miss Universe 2018 หลังประกวด
นับเป็นความพิเศษที่แฟนนางงามทั่วโลกตั้งตาชม โดยปีนี้จะมีการถ่ายทอดสดไปยังประเทศต่างๆ มากที่สุดถึง 170 ประเทสทั่วโลก และจะเป็นครั้งแรกของเวทีมิสยูนิเวิร์สที่มีการถ่าเบื้องหลังเวที และเบื้องหลังทำกิจกรรมด้วย
เรียกว่า เสิร์ฟความสนุกในแฟนๆ นางงามได้ชมกันอย่างจุใจ และร่วมเชียร์ “นิ้ง-โศภิดา กาญจนรินทร์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดครั้งนี้ ซึ่งเธอได้หน้าที่ “เจ้าบ้าน” ไม่อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง สร้างความประทับใจให้กับเพื่อนๆ นางงามเป็นอย่างมากทีเดียว
งานนี้ แฟนๆ ต่างพากันติดแฮชแทค #งดไปธนาคารเพราะผู้จัดการไปยูนิเวิร์ส
ขอบคุณภาพจาก 2018 Miss Universe, angelaponceofficial, T-Pageant Club FB