เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 กันยายน ที่บริเวณสระว่ายน้ำโรงแรมดีวา ลักซ์ รีสอร์ต แอนด์ สปา กองประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2562 จัดประกวดรอบชุดว่ายน้ำ เพื่อเก็บคะแนนระหว่างเก็บตัวทำกิจกรรม ทั้งนี้จะประกาศผลผู้ได้รับรางวัล “ชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม” ในการประกวดรอบสื่อมวลชน วันที่ 25 กันยายน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เข้าประกวด 39 คนปรากฎกายในชุดว่ายน้ำย้อนยุคแบบวันพีชมีกระโปรงระบาย 4 สีพาสเทลในคอนเซ็ปต์ “ดอกไม้ประจำชาติ” แบ่งกลุ่มตามภาค ได้แก่ ภาคเหนือสีม่วงดอกกล้วยไม้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสีฟ้าดอกเฟื่องฟ้า ภาคกลางสีน้ำเงินดอกอัญชัน และภาคใต้-ภาคตะวันตกสีชมพูดอกกุหลาบ
ดร.อดิศร สุดดี ผู้อำนวยการจัดการประกวดฯ กล่าวว่า หลังจากเก็บตัวทำกิจกรรมที่จังหวัดเชียงราย ก็ได้เห็นถึงพัฒนาการของผู้เข้าประกวดมากขึ้น รวมถึงการให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม ระเบียบวินัย ซึ่งในปีนี้กองประกวดมีความตั้งใจส่งสาวงามเข้าร่วมเวทีนานาชาติ “ชุดว่ายน้ำ” ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญ โดยต่อจากนี้จะมีการเก็บคะแนนในส่วนของการสัมภาษณ์เชิงลึก เกี่ยวกับทัศนคติ จากนั้นจึงเข้าสู่การประกวดรอบสื่อมวลชนและรอบตัดสินต่อไป
“เนื่องจากกองประกวดนางสาวไทยไม่ได้ส่งสาวงามเข้าร่วมประกวดในเวทีนานาชาติมานานแล้ว หลังจากครั้งล่าสุดในปี 2543 ซึ่งในปีนี้จะกลับมาสานต่ออีกครั้ง เพื่อส่งเสริมสตรีไทยในระดับสากล โดยผู้ได้รับตำแหน่งนางสาวไทย ประจำปี 2562 จะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ที่ประเทศญี่ปุ่นต่อไป การประกวดรอบชุดว่ายน้ำครั้งนี้ จึงนับได้ว่าเป็นการประกวดชุดว่ายน้ำครั้งแรกในรอบ 19 ปี และเป็นครั้งแรกที่ส่งนางสาวไทยเป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวดในเวทีนานาชาติ” ดร.อดิศรกล่าว
นายภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฎ์ชัย เจ้าของลิขสิทธิ์ มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ กล่าวว่า การประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 จะมีขึ้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่โตเกียวโดม ประเทศญี่ปุ่น หากกล่าวถึงความสวยแล้ว สาวไทยไม่แพ้ใครแน่นอน ส่วนเรื่องภาษาและการสื่อสารทางกองประกวดมีระบบการคัดกรองและซัพพอร์ตเพิ่มเติมอยู่แล้ว สิ่งที่คาดหวังคือรูปร่างโดยรวมที่ตรงตามมาตรฐานสากลเพราะต้องไปประชันกับตัวแทนสาวงามจากทั่วโลก ขณะเดียวกันอินเนอร์และแพสชั่นก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะในเวทีนานาขาติไปนั่งนิ่งๆ ยิ้มสวยๆ ไม่ได้เพราะกรรมการจะไม่มานั่งค้นหา ต้องมีอินเนอร์เข้มแข็ง สตรอง เพื่อดันออร่าออกมาให้โดดเด่น
หมายเลข 7 ลูกปลา – น.ส.ปองทิพย์ธิดา วจิตสุวรรณ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะบริหารธุรกิจภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และนางแบบมืออาชีพ กล่าวว่า เทคนิคเรื่องการเดินแบบก็ได้นำมาใช้ในการประกวดครั้งนี้ด้วย ซึ่งตนมีความหวังที่จะคว้าตำแหน่งมาให้ได้ เพราะเชื่อว่าทุกคนก็มาตามความฝัน ตนก็เช่นเดียวกัน
“เทคนิคในการดูแลตัวเองของลูกปลาคือดื่มน้ำเยอะๆ นอกจากจะช่วยให้ไม่ง่วงหรือล้าแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณดี และสดชื่นด้วย” น.ส.ปองทิพย์ธิดากล่าว
หมายเลข 15 รดา – น.ส.รดา ศุภมังคลาชัย อายุ 22 ปี คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า กิจกรรมเก็บตัวสนุกมาก แม้ว่าจะมีเหนื่อยบ้างแต่มีความสุข ได้ทำในสิ่งที่ใฝ่ฝันเอาไว้ เพราะการเป็นนางงามคือความฝันที่เริ่มจากการเป็นดาวมหาวิทยาลัย นอกจากนี้เธอยังเคยรับงานเดินแบบ ถ่ายโฆษณา เพื่อเก็บเงินส่งตัวเองเรียน แต่เมื่อได้เข้าสู่วงการนางงามแล้วก็เกิดความรักและมุ่งมั่น จนมีดีกรี รองอันดับ 1 กุลสตรีศรีรัตนโกสินทร์ ประจำปี 2559
“พอเก็บสะสมประสบการณ์มาหลายเวที ก็ตั้งใจที่จะร่วมเข้าประกวดในเวทีนางสาวไทย รดาเตรียมตัวมาหนักมาก ทั้งออกกำลังกาย ฝึกพูด ฝึกเดิน ตอนนี้เหลืออีกไม่กี่วันจะถึงรอบตัดสินแล้วก็มีความมั่นใจมาก เพราะเพื่อนๆสวยทุกคน หากเราคิดว่ามาแข่งขันกับทุกคนก็จะคิดมาก แต่หากคิดว่ามาแข่งกับตัวเอง ความมุ่งมั่นก็จะออกมา สิ่งที่คิดว่าต้องปรับปรุงคือการตอบคำถามเพราะต้องคิดคำตอบในทันที แต่ไม่กลัวเพราะสิ่งที่รดามีคือความจริงใจ อยากตอบคำถามที่แสดงให้เห็นตัวตนของเรา” น.ส.รดากล่าว
สำหรับการประกวดรอบสื่อมวลชนจะมีขึ้นในวันที่ 25 กันยายน และประกวดรอบตัดสินในวันที่ 26 กันยายน ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ถ่ายทอดเทปบันทึกภาพทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี เวลา 22.30 น.เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่แฟนเพจ นางสาวไทย – Miss Thailand