เพื่อเป็นกำลังใจแก่คนพิการ และองค์กรที่สนับสนุนคนพิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จึงคัดเลือกคนพิการต้นแบบ องค์กรที่สนับสนุนงานด้านคนพิการ เพื่อเข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ เนื่องในวันคนพิการสากล ประจำปี 2562 โดยเข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม.
เป็นงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยผู้มีกำลังใจต่อสู้ ในความรู้สึกเบิกบานที่ความพยายามได้ประสบผลสำเร็จ
น.ส.ศิริกรานต์ พรหมเสนา อายุ 26 ปี ผู้ช่วยฝ่ายบัญชีเหล่ากาชาด จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งพิการตั้งแต่กำเนิด จากโรคกระดูกเปราะ ทำให้เธอต้องนั่งวีลแชร์มาทั้งชีวิต เล่าว่า แม้จะเป็นคนพิการต้องนั่งรถวีลแชร์อยู่ตลอด แต่ก็มีโอกาสทำงานเพื่อสังคม โดยเฉพาะเวลาเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เหล่ากาชาดก็จะลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ช่วยกันคนละไม้ละมือเท่าที่จะทำได้ อย่างดิฉันทำหน้าที่อยู่โรงทาน คอยตอกไข่ใส่กระทะ พยายามทำตัวเองให้มีคุณค่า ได้ช่วยเหลือคนอื่นให้มีรอยยิ้ม มันทำให้พวกเราต่างก็มีความสุข
กว่าจะมาถึงวันนี้ เธอต้องต่อสู้ฝ่าฟันไม่น้อย เพราะพ่อแม่ไม่ค่อยให้ออกจากบ้าน แต่ด้วยในใจเธอคิดว่า “อยากเปิดโอกาสให้ตัวเอง เพื่อวันหนึ่งเราจะมีชีวิตอยู่ต่อได้เมื่อพ่อแม่ไม่อยู่” จึงหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ได้รู้จักมูลนิธิพระมหาไถ่ที่เป็นโรงเรียนประจำของคนพิการ จึงตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อไปเรียน ก่อนมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก จนจบ
“อยากให้สังคมได้รู้ว่าคนพิการ ก็สามารถทำในสิ่งที่มีคุณค่าได้ หากมีโอกาสและมีสิ่งอำนวยความสะดวก” กล่าวด้วยน้ำเสียงสดใส
เช่นเดียวกับ นายธนเดช โพธิ์เงิน อายุ 42 ปี นายกสมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือร่างกายเชียงราย และประธานสภาคนพิการทุกประเภทจังหวัดเชียงราย เล่าว่า ผมพิการตั้งแต่เด็กจากโรคโปลิโอ ครอบครัวผมก็จนเป็นชาวไร่ชาวนามาก่อน แต่อาศัยว่าหัวใจไม่ยอมแพ้ จึงพยายามศึกษาหาความรู้อยู่ตลอด จนวันหนึ่งได้มีโอกาสมาทำงานอาสาสมัครช่วยเหลือคนพิการ ได้เห็นชีวิตและความยากลำบากของคนพิการอื่นๆ จึงเริ่มเข้ามาทำงานในองค์กรด้านคนพิการในที่สุด
“โดยรวมถือว่าคุณภาพชีวิตคนพิการดีขึ้นกว่าในอดีตมาก เดี๋ยวนี้คนพิการสามารถออกมาทำงานนอกบ้านได้ ไม่ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน เพียงขอให้กล้าออกมาออกสู่สังคม ซึ่งตรงนี้ยังเป็นข้อท้าท้ายที่คนพิการส่วนใหญ่ยังกลัว ไม่กล้าออกจากบ้าน” ธนเดชเล่า
