องค์กรสตรี เรียกร้อง ‘รมว.ศธ.’ ลงพื้นปลุกขวัญเด็ก จี้ศธ.ร่วมเป็นเจ้าทุกข์เอาผิดครูหื่น

องค์กรสตรี เรียกร้อง ‘รมว.ศธ.’ ลงพื้นปลุกขวัญเด็ก จี้ศธ.ร่วมเป็นเจ้าทุกข์เอาผิดครูหื่น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 พฤษภาคม มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว ร่วมกับ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล แผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษา จัดเสวนาผ่านช่องทางไลฟ์สด หัวข้อ “ข่มขืน” ใต้วงจรแห่งอำนาจและทางออกจากวังวนปัญหา โดยยกกรณี ครูและศิษย์เก่า รวม 7 คน ข่มขืนนักเรียนหญิงชั้น ม.2 และ ม.4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดมุกดาหาร

นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน ที่ปรึกษามูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า หลังจากที่ทางตนและทีมงานได้ลงพื้นที่ที่จังหวัดมุกดาหาร พบว่าครูมีความพยายามที่จะเจรจา ยอมจ่ายเงินผ่านทางคนที่เด็กควรจะพึ่งได้ ในเบื้องต้นเด็กทั้งสองได้เข้ามาอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว และกำลังจะเข้าสู่การคุ้มครองพยาน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อความปลอดภัย

“จากกรณีนี้ ขอเรียกร้องให้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เดินทางไปจ.มุกดาหาร และไปโรงเรียนที่เกิดเหตุและยืนยันว่า นี่เป็นความกล้าหาญของเด็ก ไม่ได้ประจานโรงเรียน สิ่งที่เด็กทั้ง 2 ทำ เป็นการช่วยรัฐมนตรีและช่วยประเทศ ดังนั้น รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ต้องไป ดิฉันเชื่อว่า โพสต์ที่เชียร์ครูด้วยกันจะลดลง ซึ่งนี่คือหมุดหมายแรกที่ท่านต้องปักหมุด และขอให้บอกไปว่า เด็กทุกคนในประเทศไทย เด็กคนไหนที่ถูกละเมิด ขอให้ออกมา แล้วผู้ใหญ่จะให้ความเป็นธรรม ซึ่งนี่คือการแก้ปัญหาระยะสั้นที่เราต้องเก็บคนที่ทำร้ายเด็กให้เรียบวุธก่อน หลังจากนั้น จึงลงไปแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและอำนาจนิยม” นางทิชากล่าว

Advertisement

ด้าน นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากฝากเป็นข้อเสนอ คือ กระทรวงศึกษาธิการ ต้องสร้างกลไกคุ้มครองและเยียวยาเด็ก มีศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ให้คำปรึกษาที่เป็นมิตร มีกลไกตรวจสอบจริยธรรมครูโดยการประเมินผลจากผู้ปกครอง และชุมชนมีส่วนร่วม และต้องกระจายอำนาจในการบริหารจัดการโรงเรียนไปสู่ท้องถิ่น โรงเรียนต้องมีหลักสูตรเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ เพื่อให้เด็กรู้ว่าอะไรคือการคุกคามทางเพศ จะปกป้องตัวเองอย่างไร และเจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรมต้องตระหนักว่าคดีล่วงละเมิดทางเพศนั้นไกล่เกลี่ยไม่ได้

“ทางกระทรวงศึกษาธิการยังเงียบๆ รมว.ศธ.หายไปเลย พวกเราเรียกร้องให้ท่านไปมุกดาหาร เพราะสถานการณ์เกิดขึ้นเยอะมาก รวมทั้งสิ่งที่ท่านออกมาพูดแล้วว่า จะแก้ไขปัญหานี้ด้วยการทำระบบร้องทุกข์นั้น จะทำยังไง โครงสร้างที่มีปัญหาจะแก้ยังไง เช่น หลักสูตรควรกำหนดโดยชุมชนหรือไม่ ครูควรได้รับการประเมินผลโดยผู้ปกครองหรือไม่ รวมถึงทำให้คนเป็นครูรู้ว่าการคุกคามเด็ก เป็นความผิดที่ร้ายแรง การข่มขืน เป็นการทำร้ายตัวตนของผู้หญิงของเด็ก สถานศึกษาต้องพัฒนาศักยภาพคน ให้คนเป็นมนุษย์ที่ไปพัฒนาคนอื่นต่อ ไม่ใช่เป็นสถานศึกษากลับที่ไปละเมิดเด็ก ซึ่งทุกวันนี้ คนรุ่นใหม่กล้าตั้งคำถาม และวิจารณ์ครูแรง สะท้อนให้เห็นว่า คนไม่ยอมรับ ดังนั้น ศธ.ไม่สนใจไม่ได้แล้ว” นายจะเด็จกล่าว

Advertisement

ด้าน นางสาววราภรณ์ แช่มสนิท ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษา กล่าวว่า แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ จะออกมาให้ข่าวว่าจะจัดการกรณีนี้อย่างเด็ดขาด แต่ก็ยังเป็นแค่งานเชิงตั้งรับ คือรอให้เกิดเหตุแล้วจึงจะมาตามแก้ ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาที่สาเหตุรากเหง้า ข้อสำคัญตอนนี้เด็กในโรงเรียนและครูคนอื่นๆ เสียขวัญ การลงพื้นที่เพื่อยืนยันในการเอาผิดอย่างจริงจังและปลุกขวัญเด็กๆ ผู้ปกครอง และครูน้ำดีของเจ้ากระทรวงเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ

“ปัญหานี้เป็นปัญหาที่สังคมรู้กันอยู่แล้ว ดังนั้น ผู้บริหารกระทรวง ตั้งแต่ รัฐมนตรี ปลัด ไม่ต้องอาย ยอมรับว่าเป็นปัญหาแล้วมาแก้ไขดีกว่า โดยกระทรวงศึกษาฯ ในฐานะหน่วยงานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กต้องร่วมเป็นเจ้าทุกข์ในการดำเนินคดีทางอาญากับผู้กระทำผิด รวมทั้งให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและจัดการให้เด็กได้รับการเยียวยาทางจิตใจและครูที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิดจริงต้องถูกลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด รวมถึงการถอนใบประกอบวิชาชีพครู ต้องไม่อนุญาตให้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนโดยตรงอย่างเด็ดขาด เพื่อลดโอกาสการกระทำผิดซ้ำ โดยเครือข่ายมีแผนในการเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาในสัปดาห์หน้า เพื่อยื่นข้อเสนออย่างเป็นระบบ” นางสาววราภรณ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image