สตรอง! เปิดชีวิต ‘ซามีน่า’ นางงามนักสู้ อยู่ห้องเช่าเดือน 1,500

สตรอง! เปิดชีวิต ‘ซามีน่า’ นางงามนักสู้ อยู่ห้องเช่าเดือน 1,500

สังคมออนไลน์กำลังพูดถึง “ซามีน่า สิริลักษณ์ ทรงศรี” ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 หรือ MUT50 ภายหลังเรื่องราวการสู้ชีวิต และภาพความยากลำบากในการมาประกวดนางงาม ได้เผยแพร่และแชร์ต่อในโซเชียลมีเดีย มติชนออนไลน์ จึงสัมภาษณ์พิเศษ ผู้เข้าประกวดนางงามเจ้าของฉายา “นางงามนักสู้”

อ่านข่าว เปิดบ้าน ‘ซามีน่า สิริลักษณ์’ ผู้เข้าประกวด MUT2020 แฟนๆยก นางงามสู้ชีวิต

ชมคลิป

Advertisement
นางงามสู้ชีวิต
นางงามสู้ชีวิต

– ใครเป็นคนเอาเรื่องมาแชร์ในกลุ่มเฟซบุ๊กนางงาม ?

– เริ่มจากไปเดินตลาดแล้วเจอพี่เขาพอดี พี่เขาถามว่าลงประกวด(มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020) เหรอ ก็บอกว่าใช่ พี่เขาถามอีกว่าลงประกวดเนี่ยมีสปอนเซอร์หรือพี่เลี้ยงไหม ซามีน่าก็บอกว่าไม่มีเลยค่ะ ปกติอยู่ต่างจังหวัด ขึ้นมาเพื่อประกวดโดยเฉพาะ

พี่ก็ถามอีกว่าแล้วเรียนยังไง เรียนที่ไหน เกี่ยวกับการฝึกบุคลิกภาพ และบอกว่าเดี๋ยวพี่ช่วย เขาก็เลยจเช่าสตูฯให้ แล้วให้ซามีน่าไปเรียน พี่เขาก็สอนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย บางวันพี่ซับพอร์ตค่าเดินทางซามีน่าด้วยซ้ำ เพราะบอกพี่ว่าถ้ากลับไป ถ้าเลิกดึกมาก หนูจะต้องนั่งแท็กซี่ ฉะนั้นหนูจะขอเวลาที่มันมีรถสาธารณะได้ไหม พี่บอกว่าไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพี่ดูแลค่าเดินทางให้

  หนูไม่รู้ว่าพี่เขาถ่าย เพราะวันนั้นพอเลิกกองเสร็จ ก็ไปซ้อมเดินชุดว่ายน้ำ พอซ้อมเสร็จ ก็ต้องไปหาของที่จะใช้มาที่นี่ และพอไปหาของกว่าจะเสร็จ มันก็ดึกมาก ก็คิดว่าจะไปกลับยังไง ค่าแท็กซี่ 2 รอบไม่น่าจะไหว พี่ก็เลยบอกว่าโอเคเดี๋ยวไปส่ง เขาก็พาไปส่ง ช่วยแพ็กกระเป๋า และพาไปส่งโรงแรม ทั้งๆ ที่พี่เขาก็มีงานเช้า แต่เขาซับพอร์ตซามีน่ามาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาถ่ายรูปไว้ 

จนมาเมื่อเช้านี้มีคนมาบอกว่า “เธอสตรองเกินไปแล้ว” และมาทราบว่าคืออันนี้ ก็ไม่รู้ว่าเขาถ่ายไว้ คิดว่าไปส่งเฉยๆ พี่เขาน่ารักมาก ไม่รู้จักซามีน่ามาก่อนเลย แต่ซับพอร์ตซามีน่าจริงๆ

 

– ตอนนี้ ซามีน่า พักอยู่แถวไหน ?

– เป็นห้องพักอยู่แถวหมู่บ้านนักกีฬา แถวๆ บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ไกลหน่อย แต่ว่ามันถูก เป็นห้องเช่าเปล่าราคา 1,500 บาท มัดจำ 3 เดือน ส่วนทำไมถึงอยู่ที่นี่ เพราะสมัยเรียน มหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยมาเช่าอยู่แล้ว เพราะถูก พอเรียนจบมีงานก็กลับบ้านที่ จ.สระบุรีเหมือนเดิม จนมาประกวด ก็กลับไปถามว่าจะมีห้องเช่าว่างอยู่ไหมค่ะ เจ้าของหอก็น่ารักมาก บอกว่ายังมีอยู่ เข้ามาได้เลย ซามีน่าก็เลยเข้ามา แต่ตอนที่จะเช่า ก็ยังกังวลเพราะยังไม่อยู่ในรอบ 30 คน เป็นแค่รอบ 50 คน

ก็เลยคุยกับแม่ว่าทำยังไงดี หากเช่าแล้วไม่เข้ารอบ 30 คน เราจะต้องว่างเปล่าแน่ แม่ก็บอกว่า “ลองก่อน” เหมือนแม่รู้สึกว่าซามีน่าจะได้แหละ เขาก็เชียร์ ก็โอเคลองก่อนก็ได้ แล้วเอาเงินที่มีไปมัดจำค่าห้อง และเช่าห้อง ตั้งแต่วันที่ 4-5-6 กันยายน ประมาณนี้

 

นางงามนักสู้

นางงามนักสู้
นางงามนักสู้

 

– เล่าถึงชีวิต ซามีน่า?

– ซามีน่าเกิดที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ โตที่ จ.สระบุรี แถวนั้นเป็นบ้านสวน มีบ่อ คลองทั่วไป เป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง แต่แม่มีวิธีเลี้ยงสตรองมาก เพราะแม่เป็นคนเข้มแข็ง วิธีการสอนตั้งแต่เด็ก อย่างซามีน่าไปโรงเรียนวันแรก มันต้องเจออยู่แล้วคือ โดนล้อ โดนอะไร แต่ตอนเด็กๆ หนูไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรนะ แต่รู้สึกไม่เข้าใจ เพราะคนที่เดินมาล้อผิวคล้ำเท่าหนูเลย แต่ด่าหนูว่า “ไอ้ดำ” หรือคนที่ผมหยิกเท่าหนูเลย แต่เดินมาบอกว่า “ไอ้ผมหยอง” หนูก็เลยงงว่าแล้วคุณกับเราต่างกันยังไง

หนูยังไม่เข้าใจเรื่องของเชื้อชาติ ก็เลยงงว่ายังไงนะ ก็เก็บความสงสัยมาถามและพูดคุยกับแม่ ซึ่งแม่ก็ตอบได้เคลียร์ว่า เราก็ไม่ต่างกับคนอื่นนะ เราก็เป็นคนปกติทั่วไปแค่นั้น ถ้าสมมุติถ้าใครไม่ชอบเรา หรือไม่อยากยุ่งกับเรา เราก็แค่ไม่ยุ่งกับเขาแค่นั้น แม่จะสอนอย่างนี้มาตลอด

มีอยู่ครั้งหนึ่งซามีน่าโดนแกล้งหนักมาก กลับมาที่บ้านบอกแม่ว่าหนูไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว ไม่สนุกและ แม่ถามว่าโดนอะไรมา หนูก็เล่าว่าโดนอย่างนั้น อย่างนี้มานะ แม่บอกว่า “ถ้าเธอไม่สู้ ไม่ดูแลตัวเอง ปกป้องตัวเอง คาดหวังให้แม่ไปทำอะไรให้” เขาก็ถามกลับมาอีกนี้ หนูก็งง ประมาณว่า ถ้าหนูไม่ปกป้องดูแลตัวเอง คาดหวังให้ใครมาช่วย ฉันอยู่กับเธอไม่ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว เธอต้องดูแลตัวเอง ถ้าอะไรที่ใหญ่เกินกำลังเธอ เธอค่อยมาคุยกับฉัน แต่ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่เธอดูแลตัวเองได้ เธอก็ต้องดูแลตัวเอง

  แม่บอกอีกว่าถ้าหนูโดนแกล้ง โดนล้อแล้วหนูไม่ดูแลตัวเอง กลับมาแม่จะตีซามีน่าเท่ากับจำนวนที่ซามีน่าโดนแกล้งมา ซามีน่ารู้สึกว่าโดนแม่ตีเจ็บกล้า(น้ำเสียงออกรส) ก็เลยต้องสู้ตั้งแต่นั้นมา ตั้งแต่การเงียบ อยู่คนเดียวเซฟตัวเอง แต่มันก็ไม่จบ การแกล้งรวมไปถึงการทำร้ายร่างกาย จนซามีน่าสู้ มันก็ไม่จบ เพราะสู้ 1 คนล้อ ก็มีอีก 10 คนพร้อมที่จะเข้ามาทำร้ายร่างกายเราทันที เพราะเราไม่มีใครซับพอร์ตเลย ตอนเรียนประถมศึกษา

ไปปรึกษาครู ครูก็ไม่ได้ซับพอร์ตหนู และยิ่งตอกย้ำให้หนูต้องดูแลตัวเอง ฉะนั้นวิธีการสู้ของซามีน่าคือเคสบายเคสไป เลยทำให้หนูต้องศึกษามนุษย์เยอะมาก เช่น คนนี้เดินมาพูดด้วยประโยคแบบนี้ เขาต้องการอะไรจากหนู อย่างบางคนขาดความมั่นใจ เขาเลยมาลดความมั่นใจหนูลง ฉะนั้นสิ่งที่ทำคือ ต้องทำให้เขารู้สึกมั่นใจเพื่อจะจบไป หรืออีกคน ไม่สนอะไรทั้งนั้น รู้สึกเพียงฉันอยากแกล้งแล้วฉันมีความสุข อันนี้ต้องเจอกันหน่อย ต้องพูดกันไปว่าทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้

หรือบางเคสก็งงเหมือนกัน เขามาด่าว่า “ดำ” หนูก็ถามกลับไปว่า แล้วทำไมต้องด่าเราว่าดำด้วย เขาก็ตอบกลับมาว่า “แล้วมึงดำจริงไหม” แต่ในที่นี้หนูคิดได้นะว่า เออหวะ เรื่องจริง ฉะนั้นการที่เราไม่ยอมรับว่าตัวเราดำ แสดงว่าเราก็ไม่เคารพตัวเอง ฉะนั้นซามีน่าจึงไม่โกรธเลยเวลาคนมาด่าว่าดำ เพราะมันคือเรื่องจริง แต่ถ้ามาพูดว่า “ไอ้ไม่สวย-ไอ้โง่” นี่คือการบูลลี่ ก็ปรับวิธีคิดให้เข้ากับแต่ละคน จนผ่านมันไปได้อย่างไม่ซีเรียส

ซามีน่าอยากมีเพื่อนเล่น อยากไปไหนมาไหนมีคนบอกว่า “น้องคนนี้น่ารัก” จนเก็บไปฝันว่าตื่นมาวันหนึ่งเราขาวมากเลย ทุกคนรุมรักเรา ก็เลยตื่นเช้ามาอยากลองขาว ด้วยการเอาสก๊อตไบร์ทมาขัดๆ แต่วินาทีที่ขัด มันไม่ขาว มันแสบ หนูก็รู้แล้วว่ามันไม่ช่วยอะไรเรา ไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจเรา ก็เลยว่าเลิกแล้ว มันไม่ขาวขึ้น ซึ่งแม่ก็สอนดีนะ แม่บอกว่า “ถ้างั้นเปลี่ยนจากสก๊อตไบร์ทเป็นมะขามมาขัด มันไม่ช่วยให้เธอขาวขึ้น แต่ช่วยให้เธอผิวเนียนขึ้น เธอก็จะสวยในแบบของเธอ แค่นั้นเอง”

 

“ซามีน่า สิริลักษณ์ ทรงศรี” ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 หรือ MUT50
“ซามีน่า สิริลักษณ์ ทรงศรี” ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 หรือ MUT50
“ซามีน่า สิริลักษณ์ ทรงศรี” ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 หรือ MUT50

 

– ซามีน่าเป็นลูกครึ่งอะไร อยู่สระบุรีตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

– อยู่สระบุรีตั้งแต่ 4 ขวบ จนถึงอายุ 18 ปี ลูกครึ่งไทย แอฟริกัน อเมริกัน แม่ซามีน่าเป็นคนไทย พ่อเป็นแอฟริกัน อเมริกัน

 

– อาชีพที่บ้านของซามีน่า และความยากลำบากชีวิต ?

– ตอนแรกแม่ซามีน่าทำงานโรงงานก่อน แล้วประสบอุบัติเหตุ เขาก็ใช้งานไม่ได้ ก็ต้องออกมารับจ้างทั่วไป ขายของ ขายของเล่น ซามีน่าก็ออกไปขายกับแม่ด้วย จริงๆ ติดการพูดแจ้วๆ มาตั้งแต่เด็กๆ เพราะสมัยไปเรียนประถม แม่ก็จะให้ห่อวุ้น ห่ออะไรไปขาย และวิธีการขาย ก็ต้องขายให้คนอยากซื้อหนู อย่างมีดอกไม้อยู่ดอกหนึ่ง ทุกคนมาขายดอกไม้เหมือนกับหนู หนูก็ต้องหาความต่าง อย่างการบอกว่า “ดอกไม้นี้ ถ้าเธอใส่ เธอจะสวยมากเลย เธอมันหอมมาก เธอเชื่อฉันสิ” คนก็เริ่มคิดว่า หรือจะซื้อของมันดี อะไรอย่างนี้ ซามีน่าก็มีวิธีการคิดอะไรเวอร์ๆ แบบนี้

หนูว่าคนไม่ได้อยากซื้อของหนูมาก แต่อยากดูแอคติ้งหนู มันสนุกล่ะมั้ง (หัวเราะ) หนูก็เลยสะสมมาเรื่อยๆ

ซามีน่าถามย้อนคำถาม ก่อนเข้าเรื่องอีกครั้งว่า หนูเริ่มจากการไปโรงเรียน ขายของอยู่กับแม่ พอแม่ประสบอุบัติเหตุตอนซามีน่าอายุ 15 ปี กำลังขึ้น ม.4 เริ่มทำงานไม่ได้ ก็มีความคาบเกี่ยวว่าหนูจะได้เรียนต่อ ม.ปลายหรือไม่ ซึ่งหนูบอกว่า ยังไงหนูจะเรียนหนังสือ เพราะชีวิตแม่เรียนน้อย ลำบากมาก ขนาดหนูเรียนยังลำบากเลย ฉะนั้นหนูต้องเรียนต่อไปอีก

ก็คุยกับแม่ แม่บอกว่า ถ้าจะเรียนต้องดูแลตัวเองนะ แม่ซับพอร์ตไม่ได้ หนูก็เลยปรับตารางชีวิตใหม่ บวกกับมาเรียนเป็นนักศึกษาวิชาทหารรักษาดินแดน หรือ รด. ตามบัตรประชาชนคือ ว่าที่ร้อยตรี และยังเป็นเด็กกิจกรรมอีก เพราะเกิดช่องว่างตอนประถมที่ไม่มีเพื่อน แต่มีเวลาเหลือเกิน นอกจากอ่านหนังสือ แล้วสามารถทำอะไรได้อีก นั้นคือ การทำกิจกรรม ก็เลยเป็นเด็กที่ทำกิจกรรม เรียน รด. และทำงานที่บ้าน ทำงานบ้านทุกอย่าง

  ตอนเย็นหนูจะไปรับจ้างจากป้าของเพื่อนที่เปิดร้านอาหาร รับจ้างล้างงานเพื่อเก็บสะสมเงินไว้ในทุกๆ เย็น ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ ต้องตื่น 6 โมงเช้า เพื่อไปรับจ้างตัดต้นข้าวโพด อ้อย หรืออะไรที่พอจะทำได้ เพื่อเอาตรงนั้นเก็บมาเป็นวันจันทร์ถึงศุกร์ที่จะได้เรียนหนังสือ แล้วพออายุ 15 ปี ที่สามารถทำงานได้แล้ว งานแรกที่ทำคือ สมัครเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น ก็เรียนสลับทำงานตั้งแต่นั้นมาจนจบมัธยมศึกษา ขึ้นมหาวิทยาลัยก็เปลี่ยนสายงานไป แต่ก็ยังอยู่กับการพูดเหมือนเดิม คือ เซลล์ อิมฟอร์เมชั่น ได้ฝึกการสื่อสารตลอดเวลา

ซามีน่าเรียนมัธยมศึกษาที่ โรงเรียนซับน้อยเหนือวิทยาคม สระบุรี ครูที่นี่น่ารักมาก ซับพอร์ตหนูหลายเรื่อง อย่างเวลาหนูไม่มีเงินจ่ายค่าคอมพิวเตอร์เทอมละ 300 บาท ครูที่ทำกิจกรรมด้วย ก็จะช่วยหนู เพราะครูเห็นหนูลำบากมาตั้งแต่เด็ก ครูจะช่วยตลอด มีทุนการศึกษา ก็จะซับพอร์ตตรงนี้มา ส่วนระดับมหาวิทยาลัย เรียนนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

– แรงบันดาลใจเข้าวงการนางงาม และอาชีพปัจจุบัน ?

– ก่อนหน้านี้เป็นเอ็มซี โมเดลฟรีแลนซ์ ก็ทำตามปกติ แต่สำหรับอาชีพที่ใฝ่ฝันจริงๆ คือ นางงาม หนูรู้สึกว่าเวลาแถวบ้านมีเวลาประกวดนางนพมาศ หนูจะไม่ได้โดนรับเลือกอยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้สวยแบบพิมพ์นิยม หนูไม่ได้ว่าพิมพ์นิยมไม่ดีนะ แต่หนูไม่ได้สวยแบบที่คนส่วนมากมองแบบนั้น และก็เป็นความคิดของหนูว่า จะทำให้แม่รู้สึกเติมเต็ม ทั้งที่แม่ไม่ได้บอกว่าทำไมลูกฉันประกวดนั้นประกวดนี่ไม่ได้ แต่มีคนแถวบ้านมาพูดว่าลูกฉันสวยมากเลย ไปแต่งหน้าพาไปประกวดอย่างนั้นอย่างนี้ แต่หนูรู้สึกว่าถ้าจะประกวดนางงาม ต้องตอบคำถามได้ หุ่นต้องดี ต้องดูแลรูปร่างตัวเองให้ดี แล้วหนูทำไมจะทำไม่ได้

หนูก็เลยคุยกับพี่เขา เขาขำเลย บอกว่าเธอไปไม่ได้หรอก ไปก็ไม่ได้ ถ้าฟลุ๊คได้ใครจะเชื่อว่าเธอเป็นตัวแทนประเทศไทย หนูก็เลยถามกลับว่า แล้วเอาอะไรมาวัดว่าใครควรเป็นตัวแทนประเทศไทย ในเมื่อทุกวันนี้ลูกครึ่งเยอะมาก ทำไมลูกครึ่งผิวขาว คุณถึงให้พื้นที่เขาเป็นตัวแทนได้ แล้วทำไมลูกครึ่งผิวสีที่ผิวคล้ำ ผิวดำ ถึงมองว่าเป็นตัวแทนประเทศไทยไม่ได้ ในเมื่อท้ายที่สุดไปยื่นแล้ว เขาไม่ได้มองว่าหน้าคุณเป็นแบบไหน หุ่น รูปทรงจะเป็นอย่างไร เขามองว่าคุณมีศักยภาพอะไร แล้วมันคาดอยู่แล้วว่าไทยแลนด์ หนูว่ามันชัดอยู่แล้ว

 

– ลำบากไหม กับการมาประกวด ที่ต้องใช้ทุน ใช้เงิน ?

– ลำบาก ตอนแรกหนูเครียดเลยนะ พอผ่านโควิดปุ๊บ จะไปยังไงต่อ เพราะช่วงโควิดเงินที่หนูเก็บไว้ส่วนหนึ่ง ถูกนำออกมาใช้หมดเลย แล้วจะประกวดแล้ว หนูก็เครียด พยายามโพสต์ตามสื่อโซเชียลของตัวเอง ซึ่งยอดฟอลโล่ก็น้อยมาก ก็พยายามให้คนมาซับพอร์ตด้วยวิธีการจ้างงาน ไม่ว่าจะเป็นเอ็มซีอะไรก็แล้วแต่ เพื่อเก็บเงินตรงนี้มา เนื่องจากการเก็บตัวไม่ใช่ 1-2 วัน แต่ต้องใช้เวลาเป็นเดือน

ฉะนั้นต้องมีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าค่ากิน ค่าเสื้อ ค่ารองเท้า กระเป๋า ฯลฯ หนูก็เลยเครียดมาก โชคดีว่าหนูมีกัลยาณมิตรที่ดี คือ เพื่อนสมัยมัธยมรวมเงินมาก้อนหนึ่ง และเพื่อนที่มาเจอตอนทำงานแล้ว ก็ช่วยมา ซับพอร์ตหนูได้ แต่ก็ร่อยหรอไปเรื่อยๆ เพราะแต่ละวันต้องเดินทางทุกวัน หนูเลยจะเซฟคอร์ส ด้วยการนั่งรถสาธารณะ หรือที่กลับช้าหน่อย เพื่อขอติดรถพี่ๆ ในกอง แล้วเราก็ค่อยต่อไป

 

– คุณพ่อของ ซามีน่า ?

– หนูไม่มีคอนแทคเลย ไม่เคยเจอ ไม่ทราบชื่อด้วยซ้ำ รู้แค่ว่าเขานับถือศาสนาอิสลาม เป็นแอฟริกัน อเมริกันแค่นั้น ส่วนถามว่าอยากเจอไหม หนูเจอก็ได้ ไม่เจอก็ได้ เพราะหนูไม่ได้รู้สึกบกพร่อง อย่างที่บอกคือ แม่หนูทำหน้าที่เต็มที่มาก หนูไม่เคยรู้สึกเลยว่าฉันเป็นลูกไม่มีพ่อ ฉันขาดความอบอุ่น แม่ซามีน่าบอกว่า แม้เราจะเป็นครอบครัวยากจน แต่ทุกอย่างที่หนูอยากได้ อยากทำอะไร อะไรที่ไม่เป็นข้อจำกัดเรื่องเงิน แม่ซับพอร์ตทุกอย่าง

ซามีน่าไม่เคยเรียกร้องเรื่องเงิน เพราะอย่างที่บอกคือ เรารู้สถานการณ์เป็นยังไง หนูมีวิธีคิด วิธีการรับมือมาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็เลยโฟกัสตรงนั้น ฉะนั้นแม่ต้องซับพอร์ตในเรื่องอื่น ที่ไม่ใช่เงิน แม่ทำหน้าที่แม่ให้ดี หนูก็จะทำหน้าที่ลูกให้ดี ก็พูดคุยแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก

ส่วนอยากตามหาพ่อหรือไม่นั้น ซามีน่าครุ่นคิด “อืม… หนูต้องถามแม่ก่อน ว่าแม่โอเคที่จะเจอรึเปล่า เพราะหนูไม่ได้คุยลงลึกกับแม่เลย เว้นหากได้มาซับพอร์ตความรู้สึกแม่ เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ แม่คงอยากจะเล่า คงอยากจะพูด แต่นี่แม่แทบไม่พูดถึงเลย หนูก็เลยไม่รู้ว่า มันจะไปกระทบจิตใจแม่หรือเปล่า เพราะว่าหนูอยู่กับแม่ ก็อยากรักษาความรู้สึกให้ดีที่สุด

 

 

“ซามีน่า สิริลักษณ์ ทรงศรี” ผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 หรือ MUT50

 

– ตัวตนของ ซามีน่า ?

– คือความสู้ความอดทน อย่างที่บอกหนูมาตรงนี้ ไม่ได้มาเพื่อให้ใครมาสงสาร หรือมาเมตตาอะไรแบบนั้น ไม่ได้มาขอคะแนน ของใคร แต่สิ่งที่ทำคือ มาส่งต่อให้คนอื่น หนูผ่านกระบวนการ ความยากทุกอย่างมาหมดแล้ว มาหล่อหลอมให้เป็นซามีน่าในวันนี้ สิ่งที่หนูอยากส่งต่อคือ ผู้หญิงทุกคน หรืออะไรก็ได้ คน สัตว์ สิ่งของ ที่ยังไม่สามารถก้าวผ่านเรื่องเลวร้าย ไม่ว่าจะเรื่องฐานะทางสังคม ฐานะครอบครัว แม้กระทั้งรูปลักษร์ภายนอก

ท้ายที่สุดซามีน่าอยากจะบอกว่าคุณมองมาที่เรา คุณเจออะไร คุณเห็นพลัง เห็นความตั้งใจไหม ถ้าคุณเห็นสิ่งนั้น ก็อยากบอกว่าอยากให้คุณผ่านมันไปให้ได้ คำนี้ใช้ได้จริง “แล้วมันจะผ่านไป” แม้มันจะยากสักหน่อย เหมือนกินยาขม มันผะอืดผะอมเหลือเกิน แต่พอกลืนไปได้แล้ว มันจะดีต่อสุขภาพคุณที่สุด เหมือนที่ซามีน่ามายืนตรงนี้

  ความคาดหวังในเวทีนี้ ซามีน่าอยากจะไปให้สุด อยากเป็นตัวแทนประเทศไทย ท้ายที่สุดซามีน่าคิดเอง ทำเองไม่ได้ มันต้องด้วยพลังของหลายคน ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการ อะไรก็แล้วแต่ อะไรที่เป็นองค์ประกอบทั้งหมด ก็ฝากซามีน่า MUT50

 

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image