ผ่าวิกฤต ‘ถูกเลย์ออฟ’ ถอดรหัสลับ ‘DNA’ คนเก่ง ‘องค์กร’ ไม่คัดออก
วิกฤตโควิด-19 องค์กรหลายแห่งมีนโยบายปรับลดและปลดพนักงานเพื่อให้อยู่รอดได้ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่มีหลายองค์กรถึงขั้นต้องปิดกิจการไปก็มี ซึ่งผลกระทบครั้งนี้ยังไม่จบลงง่ายๆ
ซึ่งผลกระทบดังกล่าวส่งผลให้ผู้บริหารองค์กรต้องเตรียมความพร้อมด้วย จนมีคำกล่าวที่ว่า “ยุคต่อจากนี้ เป็นยุคของคนเก่งจริงที่จะอยู่รอด” ซึ่งองค์กรหลายแห่งเลือกที่จะเก็บพนักงานพิเศษ หรือ Talented Genius กลุ่มนี้ไว้
เมื่อองค์กรต้องการ Talented Genius เพื่อช่วยกันพัฒนาองค์กรต่อไป และคนที่ไม่สามารถก้าวถึงการเป็น Talented Genius ต้องทำอย่างไร? เพื่อให้ตัวเองผ่านวิกฤตการถูกเลย์ออฟได้
นงลักษณ์ ธนรักษ์ อดีตซีอีโอ บริษัท Headhunter ข้ามชาติ ผู้มีประสบการณ์ในการคัดสรรและสัมภาษณ์ผู้บริหารมากว่า 10,000 คน ให้กับองค์กรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประสบการณ์ 20 ปี ทำให้เธอรู้ว่า
“ลักษณะคนทำงานแบบไหนที่จะก้าวหน้าและเป็นที่ต้องการขององค์กร และจะพัฒนาแบบไหนที่จะสามารถแปลงกายสู่การเป็นมนุษย์ Hi-Po ได้” โดยเธอได้นำประสบการณ์การทำงานทั้งหมดมากลั่นกรองเป็นหนังสือ “Talented Genius เผยรหัสลับ DNA คนเก่ง เปลี่ยนตนเองสู่ยอดมนุษย์ Hi-Po” ที่เปรียบเสมือนคัมภีร์การทำงาน เป็นคู่มือและเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ไม่มีโค้ชส่วนตัวด้านอาชีพ
นงลักษณ์เผยว่า ดีเอ็นเอ พื้นฐานของมนุษย์ Hi-Po หรือ มนนุษย์ที่มีศักยภาพสูง (High Potential หรือ Hi-Po) คือ เป็นพนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ากลุ่มเพื่อนในองค์กร นอกจากมนุษย์ Hi-Po จะทำงานเก่งแล้ว ยังมีพฤติกรรมเป็นแบบอย่างให้กับพนักงานคนอื่นๆ เป็นตัวแทนที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและค่านิยมขององค์กร และมีบทบาทในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจโดยรวม คนเก่งหรือมนุษย์ Hi-Po ขององค์กร ทำงานได้ผลงานดีกว่าพนักงานทั่วไปเฉลี่ยถึง 50-100 เปอร์เซ็นต์
“จากประสบการณ์คัดสรรผู้บริหาร องค์กรชั้นนำส่วนใหญ่ต้องการคนที่สามารถเติบโตได้ มาร่วมงานแล้วสามารถพัฒนาได้ ต้องมีความเป็นผู้นำ มีทัศนคติที่เป็นบวก ทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ มีความยืดหยุ่นสูง เพราะสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก พอมาวิกฤตคนกลุ่มนี้จะรอด และสุดท้ายคนที่ไม่เปลี่ยนแปลงจะไม่รอด”
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาตนเองให้เป็นสุดยอดมนุษย์ Hi-Po จะต้องมีคุณสมบัติ 20 ประการ ดังนี้
1.มีทักษะการเป็นผู้นำ
2.มีความสามารถในการรับรู้สิ่งต่างๆ ได้รวดเร็ว
3.น้อมรับคำติชม เพื่อนำไปปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
4.มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำสิ่งต่างๆ
5.พัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
6.มีความสามารถในการจัดการกับความกดดันได้ดี และสามารถเปลี่ยนความกดดันนั้นให้เป็นพลังขับเคลื่อนในการทำงานแทน
7.ทำตนให้เป็นประโยชน์ ทั้งต่อเพื่อนร่วมงานและผู้บริหาร
8.มีความสามารถทำงานคนเดียวได้
9.มีความสามารถในการทำงานเป็นทีม
10.มีทักษะในการตั้งคำถาม
11.มีความน่าเชื่อถือ
12.กล้าตัดสินใจ
13.มีทักษะในการเป็นหัวหน้างาน
14.มีความสามารถในการทำงานที่ท้าทาย
15.มีบุคลิกที่เรียบง่าย คนเก่งจะถ่อมตัว ไม่อวดเก่ง ไม่ลอยตัวเหนือผู้อื่น เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนร่วมงาน
16.สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป
17.มีใจเปิดกว้าง มีความยืดหยุ่น เปิดรับข้อเสนอแนะ และยินดีแก้ไขถ้าผิดพลาด
18.มีความสนใจในบริษัทว่าจะสร้างองค์กรให้เติบโตอย่างไร
19.มีแรงบันดาลใจในการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรอบข้างได้
20.มีความฉลาดทางอารมณ์ มีความมั่นคงทางอารมณ์สูง
“เดิมเมื่อ 5-10 ปีก่อนไทยมีอัตราว่างงานน้อยที่สุดในโลก ปัจจุบัน หลังโควิดจะมีคนว่างงานเป็นหลักล้าน ยอดคนตกงานมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ถ้าคุณไม่เก่งจริง คุณอยู่ไม่ได้ ดังนี้ เราใช้จังหวะที่มีโควิดพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่เก่งขึ้น อยากให้วิกฤตผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ให้โอกาสนี้ทำตัวเองให้ดีขึ้น”
นงลักษณ์ยังแนะนำอีกว่า หลังวิกฤตโควิด-19 สิ้นสุดลง ธุรกิจที่จะเติบโตต่อไปได้ และมีอนาคต คือ ธุรกิจการขนส่ง ธุรกิจด้านสุขภาพ และการเสริมสร้างสุขภาพ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ธุรกิจด้านเภสัชกรรม ธุรกิจด้านระบบศูนย์บริการ ธุรกิจด้านข้อมูลสื่อสารและเทคโนโลยี ธุรกิจเหล่านี้คือธุรกิจดาวรุ่งที่มีอัตราการเติบโตสูงกว่าธุรกิจอื่นๆ
“หากมีความคิดจะเปลี่ยนงาน ขอแนะนำให้มุ่งไปสู่ธุรกิจเหล่านี้แทน เพื่อลดความเสี่ยงในด้านการปรับโครงสร้างขององค์กรในอนาคตที่จะตามมา เพราะผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ในครึ่งปีแรกของ ค.ศ.2020 เป็นเพียงจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเกิดผลกระทบแบบโดมิโนให้ธุรกิจล้มได้อีกในไตรมาศและปีถัดไป ดังนั้น การคัดพนักงานออกจากองค์กรหรือเลย์ออฟ จะเกิดขึ้นอีกเป็นระลอกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” นงลักษณ์แนะนำ ก่อนทิ้งท้ายว่า
“จงสร้างโชคชะตาให้กับตัวเอง”