‘มิสแกรนด์อินเตอร์ยุคโควิด’ ฝ่ามรสุมไวรัส ดราม่า ยืนหยัดเพื่อสันติภาพ พิสูจน์ฝีมือคนไทย

‘มิสแกรนด์อินเตอร์ยุคโควิด’ ฝ่ามรสุมไวรัส ดราม่า ยืนหยัดเพื่อสันติภาพ พิสูจน์ฝีมือคนไทย

ขับเคี่ยวกันมานานร่วมเดือน ในที่สุดก็ปิดม่านลงไปอย่างงดงาม ณ วินาทีที่ มงกุฎมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 สวมลงบนศีรษะของ “อัลเบน่า แอพเพีย” สาวงามจากประเทศสหรัฐอเมริกา

ยืนหนึ่งท่ามกลางผู้เข้าประกวดทั้งหมด 63 ประเทศ ซึ่ง “ประเทศไทย” วนกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้งในรอบ 5 ปี

หลังรับบทเป็นเจ้าบ้านครั้งแรกในปี ค.ศ.2013 และต่อเนื่องอีก 2 ปี (ค.ศ.2014-2015) เหมาเป็นเจ้าภาพถึง 3 ปีติดกันตั้งแต่ปีแรกของการก่อตั้งเวที ซึ่งมีประเทศที่ร่วมส่งสาวงามเข้าร่วมประกวดสูงสุดถึง 85 ประเทศ และผู้เข้าประกวดสาวไทยก็ต่างทำผลงานได้ดีมาโดยตลอด

เรียกว่า “ไม่หนี ไม่หาย ไม่ตายละติน” จริงๆ เพราะสาวไทยไม่เคยหลุดจากรอบ 20 คนสุดท้าย ทั้งยังไปได้ใกล้มงที่สุดคือ “รองชนะเลิศอันดับ 2”

Advertisement

เวทีแรก! ประกวดแบบนิวนอร์มอล

กระนั้นในการเป็น “เจ้าภาพ” จัดประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 ปีนี้ ที่นับเป็น “ครั้งที่ 4” ของประเทศไทย ก็ต้องเผชิญกับ “ความท้าทาย” ในหลายๆ ด้าน

โดยเฉพาะการเป็นเวทีการประกวดนางงามระดับแกรนด์สแลม “เวทีแรก” ที่จัดการประกวดท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ภายใต้คำแนะนำจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) อนุมัติการจัดการประกวดโดยรัฐบาลไทย

เข้ม! ตั้งแต่วินาทีที่ผู้เข้าประกวดเท้าแตะพื้นประเทศไทยจะมีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เดินทางไปรับสาวงามเข้าไปกักตัวในทันที สาวงามทุกคนจะต้องเข้ารับการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน พร้อมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งระหว่างนั้นก็จะมีมิชชั่นสนุกๆ ให้สาวงามได้ทำ อาทิ แข่งกินอาหารไทยใน 2 นาที, โมเมนต์ครั้งแรกที่ได้สวมชุดไทย และชาเลนจ์ลบเครื่องสำอางใน 2 นาที เป็นต้น

Advertisement
สวมแมสก์ระหว่างประกวด
สวมแมสก์ระหว่างประกวด
สวมแมสก์ระหว่างประกวด

ทว่าหลังจากที่ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผู้เข้าประกวดทั้ง 63 คน ปรากฏว่า พบผู้เข้าประกวดติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ราย คือ มิสแกรนด์เคนยา และมิสแกรนด์ไนจีเรีย ทั้งสองถูกส่งตัวไปรักษาทันทีที่โรงพยาบาลปิยะเวช กระทั่ง “อาการดีขึ้น” ด้วยเป็นการติดเชื้อในระยะที่ยังไม่รุนแรง และหลังเข้าตรวจสอบหาเชื้ออีก 3 ครั้ง และพบว่าผล “เป็นลบ” (ไม่พบเชื้อโควิด) ทางกองประกวดจึงอนุมัติให้ทำกิจกรรมเก็บตัวร่วมกับเพื่อนสาวงามได้

ขณะเดียวกัน “รูปแบบการประกวด” ก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในหลายด้าน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด หรือที่เรียกกันคุ้นปากว่า “นิวนอร์มอล”

จึงเป็นครั้งแรกที่ผู้เข้าประกวดต้องสวมเครื่องป้องกันอย่าง แมสก์ เฟซชิลด์ และพกสเปรย์แอลกอฮอล์ ตลอดระยะเวลาที่ทำกิจกรรม โดยในแต่ละรอบของการจัดการประกวด จะกำหนดผู้เข้าร่วมงานในฮอล์ที่จัดการประกวด เว้นระยะห่างระหว่างที่นั่ง ยังรวมไปถึงสื่อมวลชนที่เข้าร่วมทำข่าวก็ต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานทุกครั้ง เพราะทางกองประกวดจะกำหนดจำนวนสื่อเพื่อไม่ให้เข้าไปในพื้นที่จนแน่นเกินไป ตลอดจนต้องรายงานจำนวนผู้ร่วมงาน/กิจกรรมต่อหน่วยงานภาครัฐทุกครั้ง

และเพราะเก็บตัวทำกิจกรรมในเมืองหลวง “กรุงเทพมหานคร” ที่เดียว ไม่ได้ยกกองไปยังจังหวัดอื่น จึงเป็น “ครั้งแรก” ที่การประกวดรอบชุดว่ายน้ำ ไม่ได้ยกกองไปที่ “ทะเล” แต่พาสาวงามไปอวดหุ่นบน “ดาดฟ้า” บอกเลยว่าดีกรีความแซ่บยังระอุเหมือนเดิม

ที่สำคัญจากการประกวดที่เน้นการทำกิจกรรม “ออนกราวด์” ก็จะมีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทาง “ออนไลน์” มากขึ้น

จึงอาจกล่าวได้ว่า “เอาชนะความท้าทาย” ในการจัดการประกวดท่ามกลางโควิด-19 ไปอย่างราบรื่น นอกจากจะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

สวมแมสก์ระหว่างประกวด
สวมแมสก์ระหว่างประกวด

 

ดราม่าชุดประจำชาติ

ในเรื่องเทคนิคไม่มีปัญหา แต่ก็ไม่วายมีดราม่าจนได้ เมื่อโค้งสุดท้ายก่อนจะถึง “รอบตัดสิน” แฟนนางงาม 2 ประเทศอย่าง “ไทยแลนด์” และ “ลาว” ก็ถกเถียงกันให้แซ่ด หลังดีไซเนอร์ชาวไทย อย่าง “คำภีร์ อลังการ” ผู้ออกแบบชุดประจำชาติให้กับ “โตหมิว” มิสแกรนด์ลาว 2020 ในชุด “ปลากัดลาว” ได้เผยแพร่รูปชุดประจำชาติลาวอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับชุดประจำชาติของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 “ไตรรงค์อนงค์นาถสุพรรณมัจฉา” หรือ “ชุดปลากัดไทย” ในหลายๆ ส่วน

จนเกิดเป็นประเด็นว่า “ก๊อบปี้” หรือไม่! ทั้งดีไซเนอร์ฝั่งไทยและลาวก็ต่างงัดหลักฐานออกมาประชันกัน ซึ่งท้ายที่สุดดีไซเนอร์ของลาวก็ได้ควงสาวงาม ออกมาโต้ว่า “ไม่ได้ก๊อป” แต่ก็ “ขอโทษ” หากทำให้เรื่องนี้จบลง เรื่องก๊อปไม่ก๊อปก็ปล่อยให้เป็นวิจารณญาณของแต่ละรายไป

แต่ที่แน่ๆ แฟนนางงามก็ต่าง “มูฟออน” หันมาเชียร์นางงามไทยกันต่อจะดีกว่า!

ไตรรงค์อนงค์นาถสุพรรณมัจฉา

ไทยแลนด์ ชุดประจำชาติยอดเยี่ยม

ขณะที่ น้ำ-พัชรพร จันทรประดิษฐ์ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020 ก็ทำหน้าที่ตัวแทนสาวไทยได้เป็นอย่างดี เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย แม้ว่าจะไม่ได้มงกุฎมาครองแต่ พัชรพร ทำหน้าที่ “เจ้าบ้านที่ดี” คอยดูแลเพื่อนๆ สาวงามได้อย่างน่าชื่นชม กระทั่งแฟนนางงามต่างชาติยังคอมเมนต์ชมว่า “เธอเป็นตัวแทนสาวงามของไทยที่นำเสนอเอกลักษณ์รอยยิ้มแห่งสยาม (Land Of Smiles) ได้ดีจริงๆ”

ในการประกวดครั้งนี้ น้ำ ก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวังพาชุดตลาดน้ำดำเนินสะดวก คว้าชุดประจำชาติยอดเยี่ยมมาครอง ร่วมกับญี่ปุ่น และกัวเตมาลา และเธอยังทำได้ดีที่สุด โดยผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้ายในรอบตัดสินด้วย ปังปุริเย่ไม่แพ้ใคร

น้ำ – พัชรพร จันทรประดิษฐ์

“มิสแกรนด์เมียนมา” เรียกร้องประชาธิปไตย

“ขอโทษด้วยที่พวกเราเชียร์เธอได้ไม่เต็มที่ ประเทศของเราถูกระงับสัญญาณอินเตอร์เน็ต สู้เขานะมิสแกรนด์เมียนมา”

คือหนึ่งในหลายๆ คอมเมนต์ที่ชาวเมียนมาซึ่งกำลังต่อสู้ เรียกร้อง เพื่อสิทธิ เสรีภาพภายในประเทศพยายามส่งถึง “ฮาน เลย์” มิสแกรนด์เมียนมา ตัวแทนของประเทศ

และจากสถานการณ์การชุมนุมในเมียนมาที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นนั้น ในค่ำคืนรอบตัดสิน เวทีมิสแกรนด์ได้เชิญ “ฮาน” ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์

เมื่อเธอเริ่มกล่าวเสียงในฮอลล์พลันเงียบลง

ฮาน เล่าพลางปาดน้ำตาว่า “เป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่มายืนอยู่บนเวทีในค่ำคืนนี้ หลายๆ ประเทศบนโลกนี้ ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับความสงบ และความอุดมสมบูรณ์ ในการที่จะเป็นเช่นนั้นได้ ผู้นำไม่ควรใช้อำนาจ ทำไมประชาชนผู้บริสุทธิ์ หญิงสาว และเด็ก จะต้องมาเสี่ยงชีวิต หากสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบนโลกใบเดียวกัน ผู้คนทั่วโลกคงจะพยายามแก้ไขและช่วยพวกเขา และในวันนี้ ที่ประเทศเมียนมาของฉัน ขณะที่ฉันยืนอยู่บนเวทีนี้ มีผู้คนมากกว่า 100 คนต้องเสียชีวิตลง พวกเขาเดินไปตามถนนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ฉันก็เป็นหนึ่งคนที่ยืนอยู่บนเวทีนี้ ตอนนี้ เพื่อประชาธิปไตยเช่นกัน ขอบคุณที่มอบโอกาสให้เสียงของฉันดังขึ้น ฉันอยากจะบอกกับนานาประเทศว่าโปรดให้ความสนใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาด้วย เพื่อโลกที่ดีขึ้น เพื่อเด็กรุ่นต่อไป เป็นโลกที่สุขสงบไปกับเมียนมา

ก่อนที่มิสแกรนด์เมียนมาจะร้องเพลง Heal the world ปิดท้ายการกล่าวสุนทรพจน์ได้อย่างงดงามและกินใจ เรียกเสียงปรบมือท่วมท้น เสียงประชาธิปไตย

ฮาน เลย์ มิสแกรนด์เมียนมา
ฮาน เลย์ มิสแกรนด์เมียนมา

มิสแกรนด์อินเตอร์คนที่ 8 โปรไฟล์ไม่ธรรมดา

ไฮไลต์ที่สุดของเวทีการประกวดนางงาม ก็ต้องเป็น “ผู้ชนะ” ที่ได้ครองมงกุฎอันล้ำค่าและตำแหน่งอันทรงเกียรติ ซึ่ง “อัลเบน่า แอพเพีย”

มิสแกรนด์สหรัฐอเมริกา คือผู้ดำรงตำแหน่งมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 หรือมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล คนที่ 8 ของโลก

อัลเบน่า ไม่ใช่นางงามมือใหม่ แต่เป็นนางงามที่มีชั่วโมงบินสูง กวาดรางวัลมาแล้วหลายเวที อาทิ ท็อป 20 มิสเอิร์ธ 2019 และมิสยูนิเวิร์สกานา 2014, มิสทาเลนจ์กานา 2012 และท็อปโมเดลกานา 2013 เป็นต้น

ทั้งยังทำการบ้านมาเป็นอย่างดีเกี่ยวกับประเทศเจ้าบ้าน กับกิริยาท่าทางการไหว้ที่ชดช้อย นอกจากนี้ เธอยังเรียนภาษาไทยมาแล้ว 4 เดือน จึงสามารถสื่อสารภาษาไทยได้ในประโยคง่ายๆ อย่างชัดถ้อยชัดคำ

อัลเบน่า เป็น “นักเอนเตอร์เทน” ตัวจริง ด้วยในอายุ 27 ปี สาวงามลูกครึ่งกานา-อเมริกาคนนี้ ผ่านมาแล้วหลายบทบาท ทั้งนักร้องที่มีผลงานการออกอัลบั้มมาแล้ว เป็นนักแสดงซีรีส์อเมริกัน รับถ่ายโฆษณา ทั้งยังไปสุดในเส้นทางของการเป็น “นางแบบ” ด้วยการเป็นท็อปโมเดลที่มีชื่อติดในระดับโลก เป็นนางแบบให้กับแบรนด์ดังมากมาย

อัลเบน่ากล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้เธอได้รับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า เป็นเพราะการทุ่มเทและการเพิ่มพูนประสบการณ์ ทำให้เธอประสบความสำเร็จในวันนี้

ทว่า นอกจากทักษะความสามารถที่ไม่ธรรมดาแล้ว ทัศนคติและคารมคมคายของเธอก็ไม่ธรรมดา มิสแกรนด์คนล่าสุดชัดเจนในประเด็นที่เธอสนใจจะขับเคลื่อนสู่สังคม ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องให้ยุติการเหยียดชนชาติและสีผิว อย่างแคมเปญ #BlackLivesMatter (BLM) และ #StopAsianHate ผ่านชุดประจำชาติที่บนเสื้อคลุมมีรายชื่อและใบหน้าของผู้ที่เสียชีวิตจากการเหยียดสีผิว

ดังเช่นในสุนทรพจน์ของเธอที่กล่าวเป็นภาษาไทยว่า พวกเราอาจจะมีศาสนา วัฒนธรรม หรือสีผิวที่แตกต่างกัน พวกเราล้วนเหมือนกันที่ภายใน ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนควรได้รับสิทธิและการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน อย่ามัวแต่รอเวลาหรือรอคนอื่น การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นได้จากตัวคุณเอง

อัลเบน่า แอพเพีย มิสแกรนด์สหรัฐอเมริกา
อัลเบน่า แอพเพีย มิสแกรนด์สหรัฐอเมริกา
อัลเบน่า แอพเพีย มิสแกรนด์สหรัฐอเมริกา
อัลเบน่า แอพเพีย มิสแกรนด์สหรัฐอเมริกา
อัลเบน่า แอพเพีย มิสแกรนด์สหรัฐอเมริกา

ในรอบตอบคำถาม 5 คนสุดท้าย เมื่อต้องเลือกระหว่าง “ปิดประเทศ” แต่เศรษฐกิจพัง กับ “เปิดประเทศ” เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อ แต่ประชาชนเสี่ยงที่จะติดโควิดมากขึ้น เธอเลือก “ปิดประเทศ” อย่างไม่ลังเล

“ฉันเลือกที่จะปิดประเทศ เพราะเชื่อว่าประชาชนต้องมาก่อน หากฉันเป็นผู้นำประเทศ ฉันจะเลือกประชาชนก่อนเป็นอันดับแรก” อัลเบน่าตอบอย่างมั่นใจ ก่อนแสดงทัศนคติอีกครั้งในคำถาม 2 ตัวเลือกที่กองประกวดเพิ่มขึ้นมาในวินาทีสุดท้าย

หากคุณเหลือวัคซีนโควิด-19 เพียง 1 โดส คุณจะเลือกให้เด็กอายุ 15 ปี หรือคนสูงอายุ 70 ปี เพราะอะไร?

มิสแกรนด์คนที่ 8 ตอบว่า “ฉันเลือกให้วัคซีนแก่เด็กอายุ 15 ปี เพราะฉันเชื่อว่าเด็กคืออนาคต พวกเขาจะสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม และจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่คนรุ่นหลัง”

ปิดฉากการประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ปี 2020 ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยวิกฤตในหลายๆ ด้าน

อัลเบน่า แอพเพีย มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020
อัลเบน่า แอพเพีย มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020
อัลเบน่า แอพเพีย มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2020
อัลเบน่า (กลาง) และรองทั้ง 4

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image