คนเร่ร่อนหมดหวัง เข้าถึงวัคซีน-ตรวจคัดกรองโควิด

คนเร่ร่อน

คนเร่ร่อนหมดหวัง เข้าถึงวัคซีน-ตรวจคัดกรองโควิด

โควิด-19 ระบาดอีกระลอก นับเป็นการระบาดครั้งที่ 3 ในประเทศไทย ครั้งนี้สถานการณ์แตกต่างจากครั้งก่อนๆ คนไทยตื่นตระหนกกับเชื้อสายพันธุ์อังกฤษระบาดครั้งแรกในประเทศ เนื่องจาก “แพร่เร็วกว่าสายพันธุ์ปกติ 1.7 เท่า อาการรุนแรงกว่า” ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทะลุหลักพันตลอดในช่วงหลัง ควบคู่ไปกับยอดผู้เสียชีวิตในประเทศจากโควิด-19 สูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แทบทุกบ้านต่างพากันตั้งการ์ดสูง ทว่ากับคนกลุ่มหนึ่ง แม้จะกลัวโรคระบาดแค่ไหน ก็ยังคงต้องก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตเพียงลำพัง ตามใต้สะพานลอย สวนสาธารณะ ไม่มีสิทธิลุ้นว่าตัวเองรับเชื้อมาแล้วหรือยัง เพราะเข้าไม่ถึงการตรวจคัดกรอง ความหวังได้รับวัคซีนก็ริบหรี่ เพราะรัฐบาลไม่เคยพูดถึงเลย คือ “คนเร่ร่อน หรือคนที่ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ”

ถูกสะท้อนสถานการณ์อีกครั้งกับ อัจฉรา สรวารี เลขาธิการมูลนิธิอิสรชน เล่าว่า โควิด-19 ระบาดระลอกล่าสุด จะสังเกตได้ว่าเริ่มกระทบถึงที่มีฐานะ ฉะนั้นคนระดับล่างอย่างคนเร่ร่อน คืออยู่ในสถานการณ์ยิ่งกว่าได้รับผลกระทบไปแล้ว

มูลนิธิอิสรชนแจกอาหารคนไร้บ้าน คนตกงาน ตรอกสาเก
อัจฉรา สรวารี เลขาธิการมูลนิธิอิสรชน

ไม่มีทุน-ไม่มีบัตร ปชช. หมดโอกาส!!

“คนเร่ร่อนเข้าไม่ถึงการตรวจคัดกรองโควิดเลย เพราะไม่เคยมีหน่วยงานไหนมาตรวจให้ คนเร่ร่อนเองก็ไม่รู้ว่าจะไปตรวจที่ไหน อย่างคนทั่วไปเวลาตรวจ ไปโรงพยาบาลเอกชน มีค่าตรวจหลายพันบาท หลายคนยังมองว่าแพงเลย ฉะนั้นกับคนเร่ร่อนเข้าไม่ถึงวิธีการนี้แน่นอน”

Advertisement

“ส่วนเรื่องวัคซีนโควิด ที่รัฐประกาศให้จองนัดผ่านทางสมาร์ทโฟน นี่ยิ่งแล้วใหญ่ คนเร่ร่อนไม่มีอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ”

อัจฉราเล่าอีกว่า ต่อมาเป็นเรื่องบัตรประชาชน พบว่าคนเร่ร่อนส่วนใหญ่ไม่มี เนื่องจากออกจากบ้านมาเป็นเวลานาน ทำให้บัตรประชาชนหายหรือหมดอายุ อีกหลายคนเคยใช้บัตรประชาชนค้ำประกันทำงานนอกระบบ เช่น งานรักษาความปลอดภัย พอลาออกกลางคัน ไม่ได้ไปรับคืน ก็หายไป

เพราะบัตรประจำตัวประชาชน นอกจากใช้ยืนยันตัวตนแล้ว ยังใช้เพื่อการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ ฉะนั้นการไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนของคนเร่ร่อน ทำให้พวกเขาไม่ได้รับเงินเยียวยาใดๆ จากรัฐเลย

แม้เป็นเรื่องน่ายินดีที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะพยายามลงพื้นที่ช่วยเหลือคนเปราะบางตกหล่นรับสิทธิ ให้ได้รับเงินเยียวยาของรัฐ “เราชนะ” จำนวน 7,500 บาท แต่อัจฉรามองว่ายังมีคนอีกมากมายตามท้องถนนที่ไม่ได้ ส่วนคนที่ได้ก็ไม่รู้ว่าจะใช้อะไรให้เป็นประโยชน์ เอาไปซื้อๆ บางคนมาเห็นก็บอกว่าคนพวกนี้ใช้เงินไม่ถูก ได้มาก็หมด ฉะนั้นจะดีกว่าไหมที่เอาเงินส่วนนี้มาพัฒนาพวกเขา อย่างที่รัฐเคยลงทุนฝึกอาชีพให้คนเร่ร่อน แต่รัฐไม่เคยติดตามว่า ทำไมคนเร่ร่อนหลายคนถึงไม่ประสบความสำเร็จในการฝึกอาชีพ เพราะอะไรถึงหายไประหว่างทาง ต้องเสริมตรงไหน ซึ่งรัฐไม่เคยพูดถึงตรงนี้

“สภาพจิตใจคนเร่ร่อนตอนนี้ พวกเขารู้สึกกลัว และพยายามดูแลตัวเองเหมือนคนทั่วไป แต่สุดท้ายแล้วชีวิตต้องไปต่อพวกเขาห่วงเรื่องปากท้องสำคัญกว่า คิดว่าวันนี้จะมีอะไรกิน และเขาก็รู้ตัวว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่ถึงเขา เพราะก็เป็นอย่างนี้มาตลอด”

แจกอาหารคนเร่ร่อน
ความเป็นอยู่คนเร่ร่อน

ห่วง “คนเพิ่งตกงาน” ออกมาเร่ร่อนถาวร

แม้จะอยู่ในสถานการณ์โรคระบาด แต่มูลนิธิอิสรชนก็ยังลงพื้นที่ไปช่วยเหลือคนเร่ร่อน อย่างพื้นที่ถนนตรอกสาเก ที่อัจฉราและทีมงานนำอาหารและน้ำดื่มไปแจกอยู่สม่ำเสมอ เธอสังเกตเห็นปรากฏการณ์ว่าคนมาต่อคิวรับอาหารแจกมีจำนวนมากขึ้น จากหลักร้อยต้นๆ ตอนนี้ขยับขึ้นไปเกิน 5 ร้อยคนแล้ว

อัจฉราเล่าอีกว่า ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือ “คนเพิ่งตกงาน และเพิ่งก้าวสู่การเร่ร่อน” ที่พบว่ามาต่อแถวรอรับอาหารมากขึ้น ตรงนี้อยากให้รัฐ อย่างกระทรวงแรงงาน ที่บอกว่ามีความต้องการแรงงานจำนวนมาก ได้ทำงานเชิงรุกด้วยการลงพื้นที่มาดึงดูดกลุ่มนี้ไปทำงาน เพราะหากรัฐมาช่วยเหลือทัน พวกเขาก็จะไม่ออกมาเร่ร่อนถาวร

 

ท้องยังหิว โควิดก็กลัว

ถัดมาที่คนเร่ร่อน แม้จะอยู่ในหลากหลายพื้นที่ แต่สะท้อนเป็นเสียงเดียวกันได้รับความเดือดร้อน ต่างก้มหน้าก้มตาตอบคำถาม ไม่หลงเหลือรอยยิ้ม

เริ่มที่ ลุงหลิว อายุ 67 ปี มาจาก จ.อุดรธานี ปักหลักนอนอยู่หน้าคลินิกแม่และเด็กแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร มีอาชีพเก็บขยะ เล่าว่า ช่วงโควิดเก็บขยะยาก เพราะร้านค้าปิด ราคาของเก่าก็ตก ยังดีว่ามีคนเอาของมาให้กินบ้าง อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์โรคระบาดนี้ ผมมีเพียงหน้ากากอนามัยเท่านั้น ส่วนวัคซีนจะได้หรือไม่ ไม่รู้ เขาให้ก็อยากได้ แต่จริงๆ อายุเยอะแล้ว ที่อยากได้มากกว่าคือ อยากมีรายได้

อาชีพเดียวกับ ลุงวัตร อายุประมาณ 50 กว่าปี ชาว จ.นครราชสีมา เร่ร่อนอยู่แถวสนามหลวงหลายปี เล่าว่า ช่วงนี้ก็เครียด แต่ไม่มาก เพราะปัญหามีมาให้กลุ้มและให้แก้ มีดีอย่างหนึ่ง ก็ไม่ดีอย่างหนึ่ง อย่างที่ไม่ดีคือหาของเก่าไม่ได้ เพราะบาร์ผับปิดหมดเลย ไม่มีร้านไหนเปิด จะกินจะใช้ชีวิตก็ลำบากอยู่แล้ว

ลุงวัตรเปิดรายได้ช่วงสถานการณ์ปกติ สามารถหาเงินได้วันละ 100-200 บาท แต่ตอนนี้ 60 บาทบางวันยังไม่ได้เลย ต้องรอข้าวแจกบ้าง ส่วนใหญ่กินข้าววัดแทบทุกวัน

ลุงหลิว
ลุงวัตร

ขณะที่ ลุงเลื่อน อายุ 77 ปี ปักหลักอยู่แถวศาลเจ้าบ้านหม้อ เล่าปึงเถ่ากง กรุงเทพฯ เป็นคนเร่ร่อนส่วนน้อย เพราะมีบัตรประจำตัวประชาชน ทำให้เขาได้รับเงินผู้สูงอายุ 700 บาทต่อเดือน และได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ลุงเลื่อนบอกว่า “รวมกับเงินที่คนมาไหว้ศาลให้ 20-30 บ้าง ก็พออยู่ได้”

คล้ายแต่ไม่เหมือนกับกรณี ลุงนัท อายุ 70 กว่าปี มาจาก จ.บุรีรัมย์ ที่แม้มีบัตรประจำตัวประชาชน แต่ก็ไม่เคยได้รับการเยียวยาและสวัสดิการใดๆ เลยจากรัฐ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐก็ไม่มี

“ตอนนี้ผมอยากได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินมากกว่า อย่างน้อยๆ เอาไว้ซื้อข้าวกิน” ลุงนัทกล่าวติดๆ ขัดๆ

ลุงเลื่อน
ลุงนัท

เช่นเดียวกับหญิงเร่ร่อนรายนี้ ป้าแอม อายุ 59 ปี มาจาก จ.หนองคาย เดิมเคยขายของย่านสุขุมวิท แต่ปัจจุบันมาเร่ร่อนตรอกสาเก ย่านถนนราชดำเนิน เล่าว่า อยากให้รัฐช่วยเหลือเรื่องเงิน มาเป็นทุนเพื่อไปซื้อของมาขาย เพราะใจจริงไม่ได้อยากมาเร่ร่อนอย่างนี้

ปิดท้ายด้วย จู-ศิริกุล หญิงเร่ร่อนวัยกลางคน มาจาก จ.สมุทรปราการ ก็ตกงานจากสถานการณ์โควิด และไม่เคยได้รับการช่วยเหลือเยียวยาใดๆ จากรัฐเลย

ศิริกุลเล่าว่า โควิดทำให้หาเงินยาก พอไม่มีเงินก็ทำอะไรไม่ได้เลย จะไปสมัครงานก็ไม่มีเงินเดินทางไป งานก็หายาก ส่วนเงินเยียวยาไม่ต้องถาม เพราะไม่ได้เลย

“อยากให้ภาครัฐมาตรวจคัดกรองโควิด แก่ประชาชนและคนเร่ร่อนอย่างทั่วถึง เพราะอย่าง อ.พระประแดง แถวบ้าน ติดโควิดกันเยอะ เพื่อนข้างห้องก็ยังติดเลย ดิฉันไม่กล้ากลับบ้าน และถ้าหากวันนึงดิฉันติดเชื้อ ก็ไม่อยากให้ภาครัฐมาไล่จับคนเร่ร่อน เพราะจะเป็นการสร้างความเดือดร้อนมากกว่า อยากให้แค่มาตรวจคัดกรอง ใครเจอเชื้อก็พาไปรักษาแค่นั้นเอง” ศิริกุลกล่าว

จู-ศิริกุล

เรียกร้องรัฐบาล

จากหลากหลายประสบการณ์สะท้อนเข้ามา โอกาสนี้ มูลนิธิอิสรชนได้ทำหนังสือเปิดผนึกเรียกร้องไปยังรัฐบาล ให้ฉายสปอตไลต์มายังประชากรเร่ร่อนบ้าง ด้วยการสิทธิการตรวจคัดกรองโรค สิทธิรักษาพยาบาลและวัคซีน สิทธิการช่วยเหลือเยียวยา สิทธิในการมีงานทำและที่พักอาศัย

เพื่อแปรเปลี่ยนให้คนเหล่านี้ ให้มาร่วมสามารถสร้างศักยภาพให้ประชาชาติต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image